”นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ชื่นชม ผวจ.สุราษฎรธานี และแม่ทัพน้อยที่ 4 ผนึกกำลัง กวาดล้างคอกหอยแครงเถื่อน อ่าวบ้านดอน พร้อมชื่นชมการทำงาน ส.ส.ในพื้นที่ นำเสนอปัญหา/หาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนพร้อมด้วย ผวจ.สุราษฎร์ธานี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 4 คน ได้ลงเรือตรวจการสำรวจแนวเขตแหล่งลูกหอยแครงบริเวณอ่าวบ้านดอน (ปากแม่น้ำตาปี) อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มราษฎรในพื้นที่ ผ่าน ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ถึงการถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพล กระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมงพื้นบ้านและประมงชายฝั่ง โดยได้มอบหมายให้ ผวจ.ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามเรื่องเพื่อแก้ไขปัญหานี้มาตลอดระยะหลังจากการลงพื้นที่และต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2563 นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ท.สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยที่ 4 ได้สนธิกำลังร่วมกันกับ จนท.จากสนง.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ฯ กว่า 300 นาย จัดการรื้อถอนคอกหอยแครงเถื่อนในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอพุนพินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่บุกรุกอ่าวบ้านดอน ซึ่งมีพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
"ในนามรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ขอบคุณ พล.ท.สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยที่ 4 ตลอดจน จนท.ทุกท่าน ทั้ง จนท.กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ช่วยกันจัดการปัญหาความทุกข์ร้อนของชาวประมงพื้นบ้าน ได้กว่า 1 หมื่นราย และขอย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ประกอบอาชีพหารายได้อย่างสุจริตในระดับรากหญ้า และอาชีพประมงพื้นบ้าน ยังถือเป็นหนึ่งแหล่งอาหารที่หล่อเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้รัฐบาลยังเอาจริงเอาจังกับการจัดการผู้มีอิทธิพลที่ข่มขู่และหากินบนทุกข์ร้อนของชาวบ้าน โดยจะต้องทำให้ทุกคนปฎิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อีกด้วย" นายนิพนธ์ กล่าวย้ำ
พร้อมกันนี้นายนิพนธ์ รมช.มท. ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของส.ส.ในพื้นที่ทั้ง 4 คน ที่ได้นำเสนอปัญหา และนำตนกับคณะ ลงพื้นที่เพื่อสร้างความชัดเจน ตนมองว่าจิตวิญญาณของการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรนั้นจะต้องรู้ซึ้งถึงทุกข์ของชาวบ้าน และต้องประสานการช่วยเหลือให้เกิดผลทันที อย่างกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ส.ส.ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดี รวมถึงการที่ นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.ได้นำปัญหาดังกล่าวนี้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาที่จัดการไปแล้วกว่าร้อยละ 90 นี้ จะต้องนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการศึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบและส่งผลหลายด้านทั้ง ด้านรายได้อาชีพของชาวประมงพื้นบ้าน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการปรับปรุงระเบียบกฎหมาย เป็นต้น ทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง.