มท.2 สั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับ “โนอึล” เข้าไทยคืนนี้
หมวดหมู่ : การเมือง, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 18 ก.ย. 2563, 22:23 น. อ่าน : 1,534เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าสถานการณ์พายุโซนร้อน “โนอึล” ขณะนี้อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 170 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกําลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง บริเวณเมืองดานังในวันนี้ (18 ก.ย.63) จากนั้นจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดมุกดาหารในช่วงค่ำวันเดียวกัน และเคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าสู่ประเทศเมียนมาต่อเนื่องไป ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้เริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป
ส่วนการเตรียมการรับมือสถานการณ์พายุ “โนอึล” ที่จะมาถึงประเทศไทยในคืนนี้
นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่า “ได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยของกรม ปภ.ที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหากได้รับผลกระทบจากพายุ
พร้อมทั้งกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในทุกพื้นที่เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายจากพายุฯ
ให้อยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันเหตุการณ์หากเกิดความรุนแรงจากผลกระทบของพายุ พร้อมทั้งประสานไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆ ให้มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์พายุอีกด้วย
โดยยังคงเน้นย้ำทุกหน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่ได้ซักซ้อมอยู่เป็นประจำ และการเตรียมการอพยพตามแผนที่ต้องมีความพร้อม ทั้งเรื่องสถานที่ที่ปลอดภัย อาหาร
น้ำดื่มที่สะอาด การดูแลปฐมพยาบาล ตลอดจนการตรวจตราความเรียบร้อยไม่ให้ทรัพย์สินที่ยังอยู่ในบ้านเรือนที่อพยพมาเกิดการสูญหาย”
“สำหรับพี่น้องประชาชน ขอให้ติดตามสถานการณ์
สภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณใกล้เชิงเขา
พื้นที่ลุ่มต่ำ ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง
โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้
และที่สำคัญคือต้องคำนึงถึงการรักษาชีวิตไว้เป็นลำดับแรก” นายนิพนธ์ กล่าว.