2 สว.พัทลุงเต้น จี้ จนท.รัฐเร่งเอาผิดกับผู้บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 30 พ.ค. 2563, 18:51 น. อ่าน : 1,934 2 สว.พัทลุง รับไม่ได้กับการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ท้าทายอำนาจรัฐ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายปกครองดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
กับผู้บุกรุกที่ไม่ใช่ผู้ยากจนและยากไร้
กรณีที่กลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน
“ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์” จำนวน 3,727 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในความดูแลของฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทย
เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบ และ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์
ผวจ.พัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง ฝ่ายปกครอง อปท.
และผู้นำท้องถิ่น เร่งสำรวจผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งอยู่นอกเหนือบัญชีผู้ยากจน ยากไร้ จำนวน 397 ครัวเรือน
ขณะที่ จนท.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ได้ขอให้ ผวจ.พัทลุง
ได้มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดพัทลุงเข้ามาร่วมตรวจสอบ
และให้นำคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 66/2557 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2557
เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้มาใช้ด้วย
รวมทั้งนำภาพถ่ายทางอากาศ หรือดาวเทียมก่อนและหลังปี 2557 และในปี 2557
มาเป็นหลักฐานในตรวจสอบการบุกรุกนั้น
ทางด้าน ร.ต.อนุกูล สุภาไชยกิจ อดีต
สว.พัทลุง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา กล่าวว่า
ตนได้ติดตามข่าวการบุกรุกที่ดินควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง
มาอย่างต่อเนื่อง ไม่คิดว่าจะมีการบุกรุกเข้าไปถือครองเพื่อสร้างที่ทำกินจนเต็มพื้นที่มากกว่า 3,500 ไร่
โดยที่ทางอำเภอและทางจังหวัดไม่ได้รับการรายงานการบุกรุกที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด
ตนคาดว่าผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ น่าจะทราบดีว่านอกเหนือจากครอบครัวผู้ยากจน
ผู้ยากไร้ ที่เข้าไปสร้างที่ทำกินในที่ดินสาธารณประโยชน์แห่งนี้เป็นใครบ้าง
และไม่เชื่อว่าผู้ยากจน ผู้ยากไร้ คงไม่สามารถนำรถแบคโฮเข้าไปปรับสภาพพื้นที่เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันได้มากกว่า
5 ไร่ได้ เรื่องนี้ชาวบ้านในพื้นที่คงรู้ดีว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นใครมาจากไหน
ร.ต.อนุกูล ได้เรียกร้องให้ฝ่ายปกครอง
ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้
ร่วมกันสำรวจตรวจสอบกลุ่มผู้บุกรุกดังกล่าวที่ไม่ใช่ผู้ยากจน ผู้ยากไร้
อย่างจริงจังและต่อเนื่องด้วย
และหากผู้ใดทราบว่าตนเองมิใช่ผู้เข้าร่วมโครงการจัดที่ดินของรัฐ ขจัดความยากจน
ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทาง อบต.ชัยบุรี
ได้เสนอรายชื่อไปให้ทางอำเภอทราบแล้ว ควรออกมาจากพื้นที่บุกรุกดังกล่าวโดยทันที
เนื่องจากที่ดินสาธารณประโยชน์นั้น เป็นที่ทำกินร่วมกันของประชาชน
มิใช่เป็นที่ทำกินของใครคนใดคนหนึ่ง และหากว่ามีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่
เข้าไปบุกรุกที่ดินดังกล่าวร่วมกับชาวบ้าน
ขอให้ออกจากพื้นที่การบุกรุกโดยทันทีเช่นกัน
เพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้บุกรุกคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผู้ยากจน และผู้ยากไร้
ขอเป็นขวัญและกำลังใจต่อทุกฝ่ายที่เข้ามาแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินแห่งนี้ทุกๆ คน
และจะติดตามการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุง
กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าการบุกรุกที่ดินในครั้งนี้
มีข้าราชการบางคนเข้าไปมีส่วนร่วมและมีส่วนรู้เห็นด้วย
และมีข้าราชการบางรายได้เดินเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า เข้าไปในที่ดินที่เป็นแปลงที่ตนเองบุกรุกอีกด้วย
หากการร้องเรียนของชาวบ้านเป็นเรื่องจริงแสดงว่าข้าราชการคนดังกล่าวกำลังท้าทายอำนาจรัฐ
และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชนคนอื่นๆ ด้วย และตนขอเรียกร้องให้ นายกู้เกียรติ
วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง มอบหมายและสั่งการให้ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง
ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่
ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงการร้องเรียนของชาวบ้านต่อตนในครั้งนี้ด้วย
นายทวี กล่าวอีกว่า
ชาวพัทลุงมีความเชื่อมั่นการทำหน้าที่ของ จนท.กอ.รมน.จังหวัดพัทลุง
และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า การแก้ปัญหาในครั้งนี้คงสำเร็จผลโดยไม่คว้าน้ำเหลวในการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ในบางพื้นที่
บางจังหวัดเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับตนนั้นอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐโดยเฉพาะหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ
หรือหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าไปใช้ที่ดินแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวพัทลุง
อาทิ การขยายตัวของวิทยาลัยเทคนิคพัทลุง แห่งที่ 2
การจัดตั้งสถานีเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่กำลังจะสูญพันธุ์ หายาก
และพันธุ์สัตว์น้ำทั่วๆ ไป ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวพัทลุงในพื้นที่ดังกล่าว
พื้นที่ข้างเคียง และพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดพัทลุง รวมทั้งการพัฒนา
ปรับปรุงพื้นที่ป่าพรุดังกล่าวให้อุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดพัทลุงต่อไปในอนาคต
“ผม และ ร.ต.อนุกุล จะร่วมกันติดตามการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ส่งภาพถ่ายการบุกรุกที่ดินดังกล่าวมาให้ผมดูอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นายทวี กล่าว.