CPF ชู "ฟาร์มอัจฉริยะ" ยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ และเพิ่มความเชื่อมั่นในความปลอดภัยอาหาร
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 26 ต.ค. 2565, 14:00 น. อ่าน : 737 กรุงเทพฯ -
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ
เดินหน้าขับเคลื่อน “ฟาร์มอัจฉริยะ” (Smart Farm) นำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทั้งระบบดิจิทัล บล็อกเชน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเลี้ยงสัตว์
ส่งเสริมสุขภาพของสัตว์ให้มีสุขภาวะที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี
ช่วยให้สัตว์มีภูมิต้านทานจากภายใน ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา
ได้รับการรับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในระดับสากล ตอบโจทย์ความต้องการผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มีกระบวนการผลิตที่รับผิดชอบต่อสวัสดิภาพสัตว์
น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า
ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนนำระบบ “ฟาร์มอัจฉริยะ” (Smart
Farm) มาผนวกกับการจัดการฟาร์มและการดูแลสุขภาพสัตว์ในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้นโยบายสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างมีความรับผิดชอบ
ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบการควบคุมอัตโนมัติ (Automation) ระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
อาทิ การติดตั้งเซนเซอร์ Internet of Things (IoT) เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เป็นต้น
ตลอดจนมีการวิเคราะห์และแสดงผลแบบเรียลไทม์ที่ผู้ปฏิบัติงานและสัตวแพทย์สามารถควบคุมทางไกลผ่านระบบคอมพิวเตอร์
และติดตามดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ในโรงเรือนได้ทุกที่ทุกเวลา
ส่งผลให้การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นระบบ รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
โดยได้รับรองมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล ตั้งแต่ มาตรฐาน QS Standard ของเยอรมนี และมาตรฐาน LR Farm F1rst ของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้
ผลิตภัณฑ์ไก่เบญจา (Benja Chicken) และ หมูชีวา (Cheeva
Pork) ของซีพีเอฟ ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ
100% ตลอดการเลี้ยงดู จาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับนานาชาติ
ช่วยสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์โปรตีนจากเนื้อสัตว์มีคุณภาพ
ถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และมาจากกระบวนการที่ยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์
“จากความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการนำระบบฟาร์มอัจฉริยะมาใช้
เพื่อยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างจริงจัง
รวมทั้งเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ
เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของสัตว์ในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2565
ซีพีเอฟเป็นบริษัทไทยรายเดียวได้รับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ (Animal
Welfare) ระดับ Tier 3 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2
ในรายงานเกณฑ์มาตรฐานทางธุรกิจตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (The Business
Benchmark on Farm Animal Welfare Report : BBFAW) จากการจัดอันดับ
บริษัทผลิตอาหารชั้นนำ 150 องค์กรทั่วโลก” น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าว
ที่สำคัญ
ระบบฟาร์มอัจฉริยะนับเป็นหัวใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงควบคู่กับการยกระดับความปลอดภัยภายในฟาร์ม
ช่วยให้บริษัทฯ สามารถดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง
สัตว์มีสุขภาวะที่ดี มีความเป็นอยู่สบาย ปลอดภัยจากโรคระบาด
มีภูมิต้านทานที่ดีจากภายใน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้
ระบบฟาร์มอัจฉริยะยัง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างโปร่งใส
จนถึงการควบคุมเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อในระดับสูงต่อผลิตภัณฑ์อาหาร
บริษัทฯ ยังได้จัดทำเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อให้บริษัทฯ สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตและสุขภาวะที่ดีของสัตว์ ทั้งพฤติกรรมและความต้องการของสัตว์ สภาพอากาศที่เหมาะสม ปริมาณอาหารและน้ำตามความต้องการของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ นำไปพัฒนาและปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติที่ดีต่อความเป็นอยู่และสุขภาพสัตว์ ตลอดจนการควบคุมและป้องกันโรคระบาด และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างแม่นยำ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างโปร่งใส่ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในข้อมูลของกระบวนการเลี้ยงสัตว์ และการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์
นอกจากนี้ บริษัทฯ
ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้
และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยยกระดับความปลอดภัยในฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แบบเกษตรกรพันธสัญญา
เช่น ระบบให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ ระบบการสังเกตการณ์ทางไกล เป็นต้น
รวมทั้งมีการตรวจประเมินฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของบริษัทฯ
และของเกษตรกรที่ร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพฯ เป็นประจำทุกปี
เพื่อให้ทุกคนมั่นใจห่วงโซ่ผลิตอาหารของซีพีเอฟยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์.
น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล