“ซีพีเอฟปันน้ำปุ๋ย” ปีที่ 23 เกษตรกรปลื้ม ช่วยลดต้นทุน-ผ่านพ้นวิกฤตแล้ง
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 21 ก.พ. 2567, 14:13 น. อ่าน : 574 กรุงเทพฯ -
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้า
“โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร”
แบ่งปันน้ำปุ๋ยจากระบบบำบัดของฟาร์มสุกรและคอมเพล็กซ์ไก่ไข่
ส่งให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชในชุมชนรอบสถานประกอบการ บรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง
ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้
นายสมคิด วรรณลุกขี
ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ของซีพีเอฟ
ดำเนินโครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร นับตั้งแต่ปี 2564 ด้วยการนำน้ำจากระบบไบโอแก๊ส
(Biogas)
ที่ผ่านการบำบัดแล้ว
ส่งให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้ในสวนปาล์มน้ำมัน ไร่แตงโม
ฟักทอง อ้อย ข้าวโพด และหญ้าเนเปียร์ สำหรับปี 2566 คอมเพล็กซ์ไก่ไข่จำนวน 5 แห่ง
ได้แก่ ฟาร์มสันกำแพง ฟาร์มจักราช ฟาร์มหนองข้อง ฟาร์มอุดร และฟาร์มจะนะ แบ่งปันน้ำปุ๋ยไปกว่า
181,000 ลูกบาศก์เมตร ให้กับพื้นที่การเกษตรมากกว่า 145 ไร่
ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งแก่พี่น้องเกษตรกร
และมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำให้กับชุมชน
“ซีพีเอฟ
มีเป้าหมายในการไม่ปล่อยน้ำทิ้งออกภายนอกฟาร์ม หรือ Zero
Discharge โดยน้ำหลังการบำบัดด้วย Biogas และยังคงมีแร่ธาตุที่เหมาะสมกับพืชที่เรียกว่า
“น้ำปุ๋ย” ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ในฟาร์มทั้งรดต้นไม้ สนามหญ้า
และแปลงผักปลอดภัยที่บุคลากรปลูกในพื้นที่ว่างของฟาร์ม
เมื่อเกษตรกรรอบฟาร์มเห็นผลสำเร็จพืชพันธุ์เติบโตดี
จึงติดต่อขอรับน้ำไปใช้รดพืชผลทั้งในช่วงแล้งและช่วงปกติตลอดปี
น้ำปุ๋ยและกากตะกอนที่ส่งต่อสู่เกษตรกรมีส่วนช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนค่าปุ๋ย
ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี” นายสมคิด กล่าว
ทางด้าน นายหล๊ะ
ดุไหน ต้นแบบเกษตรกรที่รับน้ำปุ๋ยจากฟาร์มจะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า
ใช้น้ำปุ๋ยรดสวนปาล์ม 10 ไร่ และใช้ในแปลงปลูกฟักทอง 10 ไร่
รอบการผลิตที่ผ่านมาน้ำปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดี
ช่วยให้ได้ผลผลิตฟักทองมากถึง 20,000 กิโลกรัม มีกำไร 200,000 บาท ส่วนรอบผลิตปัจจุบันคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นประมาณ
20% ล่าสุดขยายความสำเร็จไปใช้กับไร่แตงโมอีก 10 ไร่ ผลผลิตดีมาก เถาแตงแข็งแรง
มีดอกมาก ติดผลดก แตงลูกใหญ่น้ำหนักดี น่าจะสร้างกำไรได้อย่างแน่นอน
และยังมองหาแนวทางขยายการผลิตในพืชชนิดอื่นๆ ต่อไป
ส่วน นายวิโรจน์ ใจด้วง เกษตรกรปลูกหญ้าเนเปียร์ ที่รับน้ำปุ๋ยจากฟาร์มสันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยใช้น้ำปุ๋ย 720 ลูกบาศก์เมตรต่อรอบการผลิต ในการรดหญ้าเนเปียร์ 6 ไร่ ใช้เทคนิคผสมน้ำปุ๋ยกับน้ำคลอง ในอัตราส่วน 1:1 สามารถปลูกหญ้าเนเปียร์ได้ 4 รอบต่อปี ช่วยลดค่าปุ๋ยเคมีเฉลี่ย 16,000 บาทต่อปี หลังจากที่ได้ใช้น้ำปุ๋ย พบว่าต้นหญ้าโตเร็วกว่าที่เคยใช้ปุ๋ยเคมี ต้นอวบแน่น ใบใหญ่ ได้ผลผลิตที่ดีมาก ปัจจุบันไม่มีภาระต้นทุนค่าปุ๋ยอีกเลย และขอขอบคุณซีพีเอฟที่จัดโครงการฯนี้ ที่ช่วยให้ผ่านพ้นภัยแล้งและช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร
ซีพีเอฟ เดินหน้า
“โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร” สู่ปีที่ 23 ทั้งในฟาร์มสุกรและคอมเพล็กซ์ไก่ไข่
ภายใต้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต
มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้วยการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรและช่วยลดการใช้น้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างเป็นรูปธรรม
โดยยึดหลัก 3Rs ทั้งการลดปริมาณการใช้น้ำดิบจากธรรมชาติ
(Reduce) การนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้วกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse)
และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
หรือ Circular Economy ตามกลยุทธ์และเป้าหมายความยั่งยืน “CPF
2030 Sustainability in Action” สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ
(SDGs).