“รร.บ้านนาคำ นครพนม” เลี้ยงไก่ไข่เป็นอาหารกลางวัน สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, ทั่วไป, กรุงเทพฯ, ไลฟ์สไตล์-บันเทิง,
โฟสเมื่อ : 9 ส.ค. 2567, 18:27 น. อ่าน : 335 กรุงเทพฯ - หลังจากรับมอบ
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่เครือซีพี บริษัท
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
และ หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ หรือ JCC ร่วมกันดำเนินการแล้ว
โรงเรียนบ้านนาคำ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม
ได้เริ่มต้นโครงการฯนี้อย่างตั้งแต่ปี 2566
และสามารถสร้างผลผลิตไข่ไก่จากแม่ไก่ที่พวกเขาดูแลด้วยตัวเอง
เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทุกคน
นางวิภาวณี บุญศรี ผู้อำนวยการ
โรงเรียนบ้านนาคำ กล่าวถึงที่มาของการร่วมโครงการฯ ว่า
จากการที่หลายโรงเรียนในเขตอำเภอโพนสวรรค์ ได้เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ
ที่เครือซีพี ซีพีเอฟ และมูลนิธิฯ
ให้การสนับสนุนและส่งเสริมภาวะโภชนาการที่ดีแก่นักเรียนอยู่แล้ว โรงเรียนบ้านนาคำจึงขอรับการสนับสนุนโครงการฯนี้
หลังจากได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการฯแล้ว
ก็ทำให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่ที่มีโปรตีนคุณภาพดี
ได้มีโอกาสฝึกอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
“โรงเรียนบ้านนาคำ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก
มีนักเรียน 104 คน เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6
เราตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ
เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารกลางวัน โดยกำหนดให้มีเมนูไข่ อย่างน้อย
3 วันต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกัน โรงเรือนไก่ไข่ยังเป็นห้องเรียนอาชีพ
เป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง
และซีพีเอฟยังส่งเสริมการจ้างงานแก่คนพิการในหมู่บ้านก็ ทำให้มีงานทำ
มีรายได้ดูแลครอบครัว
โดยมีชาวชุมชนทุกคนเป็นลูกค้าผู้สนับสนุนซื้อผลผลิตไข่ไก่จากฝีมือการเลี้ยงของลูกหลานของพวกเขาเอง”
ผอ.วิภาวณี กล่าว
ด.ช.วีรภัทร ตงกะพษ์ หรือน้องติว
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่าว่า ปัจจุบันมีนักเรียนผู้ดูแลโครงการจำนวน 18
คน เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
6 โดยระบุเข้าในการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ วันนี้เราภูมิใจที่โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯของโรงเรียน
กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาการบริหารจัดการธุรกิจเกษตร
และยังเป็นคลังอาหารให้นักเรียนและชุมชน เพราะได้ทั้งไข่ไก่เพื่อเป็นอาหารกลางวัน
ส่วนที่เหลือยังยจำหน่ายให้กับผู้ปกครองด้วย
ทางด้าน
ด.ญ.ดาริกา มันอาษา หรือน้องน้ำแข็ง
นักเรียนชั้นเดียวกัน บอกว่า การดูแลไก่ไข่นั้นไม่ยุ่งยากในแต่ละวัน
มีนักเรียนรับผิดชอบวันละ 5 คน แบ่งงานเป็น 3 ช่วง คือ
ช่วงก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้า จะเข้าทำความสะอาดโรงเรือน ที่น้ำ
และรางอาหาร รวมถึงให้อาหารรอบแรก 1 จากนั้นช่วงเที่ยง เป็นกิจกรรมเก็บไข่ไก่
คัดไข่ ลงบันทึกปริมาณ และนำส่งสหกรณ์โรงเรียน
สุดท้ายช่วงบ่ายโมงเป็นการให้อาหารไก่ครั้งที่ 2 นอกจากนี้
มูลไก่ที่จัดการด้วยการนำออกไปตากแดดทุกๆ 3 วัน ยังสร้างรายได้ให้ถึงกิโลละ 5 บาท
สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการฯ
ผอ.วิภาวณี อธิบายว่า
เริ่มจากการสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
เมื่อได้รับการตรวจสอบและผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนดแล้ว คณะกรรมการจากมูลนิธิฯ
และซีพีเอฟ จึงเข้ามาดูพื้นที่ว่าเหมาะสมกับการเลี้ยงไก่ไข่หรือไม่
พร้อมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู และบุคลากร
เพื่อขอความเห็นชอบในการเลี้ยงไก่ไข่
เมื่อผ่านขบวนการทั้งหมดแล้วจึงเริ่มต้นการเลี้ยงไก่ไข่
โดยโครงการสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรือนและติดตั้งอุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่ พันธุ์ไก่ไข่
และอาหารไก่ไข่ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีซีพีเอฟสนับสนุนงบประมาณ
และยังส่งนักสัตวบาลเข้ามาสนับสนุนด้านวิชาการตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงจนถึงปลดแม่ไก่
พร้อมทั้งแนะนำการจัดการผลผลิตไข่ไก่สด การจำหน่าย และการบริหารจัดการด้านตลาด
ทำให้โครงการฯ สามารถบริหารรายได้เป็นเงินกองทุน ส่งต่อให้กับรุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้โรงเรียนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
“ปัจจุบันโรงเรียนของเราไม่มีต้นทุนในการเลี้ยงไก่ไข่ เนื่องจากได้รับอาหารไก่ไข่จากโครงการฯเป็นเวลา 1 ปี จึงสามารถเก็บเงินที่จำหน่ายไข่ไก่ไว้สำหรับต่อยอดโครงการฯในปีต่อๆ ไปได้ ทั้งครูและนักเรียนต่างดีใจที่รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ทุกคนรู้สึกภูมิใจมาก ที่โรงเรียนขนาดเล็กของเราสามารถบริหารจัดการโครงการฯได้อย่างดี นักเรียนได้บริโภคไข่ ได้ฝึกอาชีพ ทำให้โรงเรียนได้ต้อนรับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และยังได้การสนับสนุนระบบไอซีทีและคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ จาก ทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อต่อยอดจากการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน นำเทคโนโลยีระบบฟาร์มอัตโนมัติ (Farm Automation) ด้วยระบบไอโอทีด้วย” ผอ.วิภาวณี กล่าว
เครือซีพี
โดย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และ ซีพีเอฟ
ภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างโภชนาการที่ดีให้เยาวชน ตลอด 36 ปี
ช่วยแก้ปัญหาทุพโภชนาการในเด็กนักเรียน
ช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนโปรตีนแก่เยาวชนในชนบทมากถึง 213,794 คน ใน 959 โรงเรียนทั่วประเทศ
พร้อมสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่ดีแก่เด็กนักเรียน
สร้างคลังอาหารในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง
เกิดเป็นแหล่งอาหารโปรตีนโดยฝีมือของนักเรียน
นำไปสู่กการพัฒนาระบบการบริหารจัดการผลผลิตที่สร้างความยั่งยืนให้กับโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันได้อย่างเป็นรูปธรรม.