ตร.เร่งขยายผลจับผู้ต้องหาคดีลักรังนกที่ยังลอยนวล -กลุ่มบงการตั้งทีมทนายเตรียมต่อสู้คดี
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 7 พ.ย. 2564, 09:16 น. อ่าน : 1,088พัทลุง-ตำรวจเร่งขยายผลการสืบสวนสอบสวน ไปยังกลุ่มผู้ต้องสงสัยคดีรังนกที่กำลังลอยนวล ด้านอดีต สว.พัทลุงคนดังร้อง มท.1 เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติหน้าที่ของ ผวจ.พัทลุง และฝ่ายปกครองในคดีรังนก ส่วนกลุ่มบงการตั้งหลักปรึกษาทีมทนาย ความเตรียมสู้คดีเต็มที่หากถูกจับกุม
คดีขบวนการลักรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ครั้งมโหฬาร คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนยังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดร่วมขบวนการ โดยพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ผู้ที่ควบคมคดี และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. หัวคณะพนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.กองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวน และพล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เร่งคลี่คลายคดีจนสามารถออกหมายและหมายเรียกผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 38 ราย มามอบตัวแล้ว 37 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 1 ราย ด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ได้สั่งให้ฝ่ายนิติกรรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับ ข้าราชการและ จนท.รัฐที่มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อตั้งกรรมการสอบสวน หากไม่มีความผิดก็ให้ยุติเรื่อง และให้ฝ่ายที่รับผิดชอบตั้งกรรมการสอบสวนกรณีขอบ อส.กรณีเดียวกันด้วย
ทีมข่าวไทยแหลมทองซึ่งทำงานร่วมกับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้ (6 พ.ย.2564) พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.กองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนกของ สตช.และ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง หัวหน้าชุดสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง และพนักงานสอบสวน ได้ร่วมประชุมวางแผนการขยายผลคดีรังนกไปยังกลุ่มผู้ต้องสงสัยอีก 2–3 กลุ่มที่ยังลอยนวลอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลังการซื้อขายรังนกในตลาดมืด ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ที่ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.9 ล่อซื้อของกลางรังนกได้จำนวนหนึ่ง พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา
ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับผู้ร่วมขบวนการลักรังนก จ.พัทลุง ให้ถึงที่สุด จะไม่ปล่อยให้ลอยนวลเด็ดขาด เพราะทำกันมานานแล้ว
ขณะที่ จนท.ดีเอสไอ ของศูนย์ปฏิบัติพิเศษ เขตพื้นที่ 9 ( ศปพ.9) สงขลา และ จนท.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) ได้ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อติดตามข้อมูลด้านต่างๆของ จนท.รัฐที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องสงสัยในคดีรังนกทั้งผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สั่งการ ฯลฯ หลังจากก่อนหน้านี้ทาง จนท.ดีเอสไอ เข้ามาเก็บข้อมูลด้านต่างๆไปมากแล้ว หลังจากทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 37 รายเสร็จสิ้นแล้ว ทาง จนท.ดีเอสไอ และ ป.ป.ท. จะเข้ามาสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาโดยเฉพาะ จนท.รัฐ ตามบทบาทและหน้าที่ต่อไป ซึ่ง จนท.ดีเอสไอทราบว่าก่อนหน้านี้ จนท.รัฐบางรายที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีรังนกได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางติดต่อสื่อสารไปบ้างแล้ว
ทางด้านนายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุงคนดัง ซึ่งเป็นประธานชมรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ตนและชาวพัทลุงจำนวนมากมีความสงสัยในพฤติกรรม บทบาท และหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะคณะกรรมการที่เป็น จนท.ฝ่ายปกครอง ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ของนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการรังนกฯ และ จนท.ฝ่ายปกครอง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกู้เกียรตอว่า การปฏิบัติหน้าที่ในการป้องปรามการขโมยรังนกนั้นมีข้อผิดพลาด บกพร่องหรือไม่ ที่ผ่านมาทางกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้ติดตามตรวจสอบแต่อย่างใด
นายทวีกล่าวอีกว่า สำหรับนายกู้เกียรติฯ ผวจ.พัทลุงนั้น ก่อนหน้านี้ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านมากว่ามีการลักลอบการเปิดบ่อนการพนันในรูปแบบต่างๆ การเปิดร้านอาหารที่ผิดกฎหมาย ฯลฯ จนอาจจะนำไปสู่การแพรระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.พัทลุงได้ ตนจึงได้แจ้งให้ทางนายกู้เกียรติฯได้รับทราบทางโทรศัพท์ แต่จากนั้นจนถึงบัดนี้ปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ตนจึงขอให้ ผวจ.พัทลุงได้แสดงบทยักษ์บ้าง อย่าได้แสดงเป็นบทพระเอกตลอดกาล
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายกู้เกียรติ ผวจ.พัทลุง เพื่อติดต่อสอบถามในกรณีนายทวีแต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ก่อนหน้านี้นายกู้เกียรติได้พูดคุยในรายการ”ผู้ว่าฯกู้เกียรติทอล์ก”ผ่านเพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุงว่า ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ไม่มีผลประโยชน์จากการสัมปทานรังนก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยรังนก การทำลายพันธุ์นกแต่อย่างใด ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม การประชุมคณะกรรมการรังนกฯทุกๆครั้งที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มสื่อมวลชนเข้ารับฟังด้วย การสัมปทานรังนกฯในราคากลางสูงถึง 400 ล้านบาท แทนที่จะได้รับช่อดอกไม้กลับกลายมาได้รับก้อนอิฐแทน
ส่วนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการลักรังนก ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มบงการที่มีทั้งนักการเมืองและอดีต สจ.ในภาคใต้ ได้มีการหารือกับทีมทนาย ความ เพื่อหาทางต่อสู้ในทางคดีหากมีการสืบสาวมาถึงและถูกจับกุม พร้อมกันนี้ได้แนะนำการให้ปากคำแก่ผู้ร่วมขบวนการที่ยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.