เรียก 40 ตร.ชุดเฝ้าเกาะรังนกสอบปากคำ-สาปแช่งคนขโมยและผู้อยู่เบื้องหลังให้พบความวิบัติ
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 14 ต.ค. 2564, 10:00 น. อ่าน : 1,143พัทลุง-ตำรวจชั้นผู้น้อยชุดเฝ้าเกาะรังนกฯ ประมาณ 40 นาย เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีขโมยรังนก จ.พัทลุง ครั้งมโหฬารแล้ว เผยตำรวจเฝ้าเกาะอยู่อย่างลำบากถูกกำหนดจุดให้เฝ้า และเลือกเองไม่ได้ พร้อมสาปแช่งให้ผู้ลักรังนกและผู้อยู่เบื้องหลัง จงได้รับความวิบัติ ใครทำดีขอให้เจริญก้าวหน้า
การสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมัดตัวผู้ร่วมขบวนการขโมยรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ครั้งมโหฬาร ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า เมื่อตอนสายวันที่ 13 ต.ค.2564 พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) พร้อมคณะ ได้เชิญตัวตำรวจที่ลงปฏิบัติหน้าที่เฝ้ารังนกตามจุดต่างๆ ประมาณ 40 นาย มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนทั้งของ สตช. และ ภ.จว.พัทลุง ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการงานสืบสวนสอบสวนคดีรังนกแห่งใหม่ โดยกำลังตำรวจที่เข้าให้ปากคำดังกล่าวมาจาก สภ.ปากพะยูน สภ.เกาะนางคำ สภ.เมืองพัทลุง และกำลังตำรวจขุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนนั้น ได้มีการแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติงาน และการเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อม ซึ่งทางชุดสอบสวนได้แจกจ่ายเอกสารที่เป็นแผนผังในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแต่ละคนให้กรอกรายละเอียด เพื่อนำมาประกอบในการสอบปากคำด้วย
ตำรวจชั้นผู้น้อยรายหนึ่งที่มาให้ปากคำ เปิดเผยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของพวกตนนั้นได้ค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 390 บาท หักค่าอาหารวันละ 2 มื้อ เป็นเงิน 150 บาท คงได้รับเงินเพียงวันละ 240 บาท ในระยะเวลา 2 วัน มีน้ำให้ใช้ 25 ลิตร / 2 คน สำหรับอาหารที่ทางจังหวัดจัดให้นั้นแทบจะกินไม่ได้จึงต้องเตรียมอาหารไปหุงต้มกันเอง พร้อมทั้งจัดเตรียมเสบียงอาหารไปด้วย ส่วนการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นไปด้วยความลำบาก จะโดนทั้งฝนและคลื่นลม การทำงานในแต่ละผลัดจะใช้เวลา 5 วัน จะอยู่ปฏิบัติหน้าที่จุดไหนขึ้นอยู่กับการจัดเวรปฏิบัติหน้าที่ของจังหวัด สภาพเป็นเหมือนลูกเมียน้อยที่ไม่สามารถเลือกที่อยู่ ที่กิน แสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติหน้าที่ได้เลย
“พวกผมไม่อยากจะลงปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนภายหลัง แต่เมื่อเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็ต้องถือปฏิบัติ แล้วก็ต้องมาเจออย่างที่คิด และต้องมาให้ปากคำต่อตำรวจชุดสอบสวนในครั้งนี้” ตำรวจชั้นผู้น้อยกล่าวระบายความในใจ
ขณะที่ตำรวจชั้นผู้น้อยอีกนายกล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก ต้องตากแดดตากฝน ใครไม่ลงปฏิบัติหน้าที่เฝ้ารังนกจะไม่รู้ว่าพวกตนลำบากแค่ไหน และสิ่งที่พวกตนทำใจลำบากคือต้องมาเป็นจำเลยของสังคมในคดีรังนกทั้งๆที่พวกตนไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ดังนั้นจึงขอกราบวิงวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะรังนก จงดลบันดาลให้ผู้ขโมยรังนก ผู้อยู่เบื้องหลังการขโมยรังนก รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทุกๆฝ่ายในคดีขโมยรังนก จงได้รับความวิบัติ วินาศทุกๆคน พร้อมกันนั้นขอให้ตำรวจที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีรังนก จงเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามเครือข่ายผู้ใกล้ชิดขบวนการขโมยรังนกอีแอ่น ขณะนี้กลุ่มบงการ ที่มีทั้งนักการเมืองและอดีต สจ.ในภาคใต้พยายามประสานงานกับผู้ร่วมขบวนการกลุ่มต่างๆ เพื่อขอตัดตอนไม่ให้ตำรวจสืบสวนไปถึง โดยให้ตัดตอน แค่กลุ่มข้าราชการที่ร่วมขบวนการ และมีการเสนอค่าตอบแทนให้ เนื่องจากการขโมยรังนกครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านๆมา มีการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง จากการที่ ผบ.ตร.ส่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ. ตร. มาคุมคดีเอง ทำให้ผู้ร่วมขบวนการเกิดความหวั่นไหวว่า จะมีการซัดทอดจนสืบสวนไปถึงกลุ่มบงการได้ จึงต้องมีการตัดตอนกันไว้ก่อน แต่ยังอยู่ในช่วงเจรจาว่าใครจะยอมเป็นแพะในครั้งนี้ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.