หมายจับชุด2 อีก 11 คน คดีขโมยรังนก จับได้แล้ว 10 คน -“โจ๊ก”เผยจะจับหมดคนสั่งและอยู่เบื้องหลัง
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 21 ต.ค. 2564, 10:30 น. อ่าน : 2,131พัทลุง-ออกหมายจับผู้ต้องหาขโมยรับนก จ.พัทลุงชุดที่ 2 อีก 11 คน ติดตามจับกุมได้ 10 คน หลบหนี 1 คน ในจำนวนที่จับได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน 1 คน และ อส.1 คน ด้าน “ผู้ช่วยฯโจ๊ก”เผยผู้ต้องหาที่จับกุมเป็นเพียงแถว 1 ส่วนแถว 2 ผู้สั่งการและแถว 3 ผู้อยู่เบื้องหลัง จะจับต่อไป ยืนยันต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฏ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย จับทุกรายที่ทำผิด
ความคืบหน้าคดีขโมยรังนกอีแอ่น จ.พัทลุงที่ทำเป็นขบวนการท้าทายอำนาจรัฐ จน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ. ตร. ลงมาคุมคดีและนำชุดสืบสวนสอบสวนจาก สตช. นำโดย พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) เป็นหัวหน้าชุดมาร่วมสืบสวนสอบสวนกับทางตำรวจ บก.ภ.จว.พัทลุงและพบว่ามีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และพลเรือน ร่วมขบวนการกับกลุ่มผู้บงการ พร้อมทั้งขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรก 6 คน เป็นชาวบ้าน 4 คน และ อส.2 คน ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 19 ต.ค.2564 ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาชุดที่ 2 เพิ่มอีก 11 คน เป็นชาว จ.พัทลุง 6 คน ชาว จ.ชุมพร 4 คน และชาว จ.สงขลา 1 คน รวมมีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในคดีนี้แล้ว 17 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า เมื่อตอนสายวันที่ 20 ต.ค.2564 ตำรวจสนธิกำลังจาก กก.ภ.จว.พัทลุง ร่วมกับตำรวจ กก.6 บก.ป., กก.6 บก.ปชส., กก.7 บก.รน., กก.2 บก.สส.ภ.9, กก.3 บก.ทท.3, กก.4 สนท.5 และ สภ.ปากพะยูน ได้จัดกำลังแยกกันนำหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาชุดที่ 2 ได้จำนวน 10 คน หลบหนีอยู่ 1 คน
สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมได้มี 1.นายศราวุฒิ ชูชื่น อายุ 57 ปี ชาว ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง (ผู้ใหญ่บ้าน) 2.นายนิคม จาริยะ อายุ 54 ปี ชาว ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน 3.นายร่อหาม หลับสะ อายุ 46 ปี ชาว ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน (อส.) 4.นายหร่อหมาน ไหลหมัด อายุ 51 ปี ชาว ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน 5.นายทัศกร รอดรวยรื่น อายุ 28 ปี ชาว ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน 6.นายประวิทย์ ชูเกื้อ อายุ 60 ปี ชาว ต.เขาย่า อ.ศรีบรรพต 7.นายประจิม หรือจิ๊ก หีตฤททธิ์ อายุ 57 ปี ชาว ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร 8.นายประจวบ หรือเอ๋ หีตฤทธิ์ อายุ 50 ปี ชาว ต.ด่านสวี อ.สวี 9.นายจินกร หรือกร อัจฉราทิพย์ อายุ 46 ปี ชาว ต.ด่านสวี อ.สวี และ 10. นายสนธยา หรืออั้ม หีตฤทธิ์ อายุ 28 ปี ชาว ต.ด่านสวี อ.สวี ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคือ นายสุธรรม ขุนล่ำ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/8 ม.6 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
จากนั้นในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ได้มีการจัดแถลงข่าวการจับกุมที่บ้านพักรับรอง 1 บช.ภ.9 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9. พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.มานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา ทันทีที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องชาว จ.ชุมพร 4 คน ขึ้นเครื่องบินตำรวจจาก จ.ชุมพร มาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนำตัวไปถึงที่แถลงข่าว
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แถลงว่า การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ต้องหาแถวที่ 1 จากนี้ไปจะเป็นการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ซึ่งเป็นทั้งคนสั่งการ และผู้อยู่เบื้องหลัง คดีนี้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับคดีรังนกไปแล้วเกือบ 200 ราย ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้จะต้องจับทุกราย ตำรวจจะต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย เงินภาษีของรังนกจะต้องเป็นเงินเข้าสู่แผ่นดินของจังหวัดพัทลุง จะให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสัมปทานรังนกนำทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดินไปแสวงหาผลประโยชน์ไม่ได้โดยเด็ดขาด ตำรวจจะต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นที่ปรากฎชัดเจนว่า ใครเป็นผู้มาเกี่ยวข้องบ้าง ตนเป็นคนใต้จะมิให้ทรัพย์ของแผ่นดินตกไปเป็นของกลุ่มอิทธิพล กลุ่มอำนาจมืดที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวจนลืมนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ บ้านเมือง และเป็นการกระทำที่ไร้คุณธรรม จริยธรรม
”คดีนี้จะต้องมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ผมได้นำคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าไปตรวจถ้ำรังนก จำนวน 5 ถ้ำ และเก็บหลักฐานสำคัญได้เป็นจำนวนมาก สำหรับการลักรังนกนั้นมีมานานแล้วจากนี้ไปผมจะขุดรากถอนโคนกลุ่มขโมยลักรังนกให้หมดไปจากพัทลุงเสียที จะไม่ยอมให้ผู้เห็นแก่ได้เข้าไปลักรังนกในช่วงว่างเว้นการรับสัมปทานโดยเด็ดขาด ขอให้มั่นใจว่าผู้อยู่เบื้องหลังทั้งแถว 2 แถว 3 จะไม่หลุดเอื้อมมือของกฎหมายอย่างแน่นอน ในขณะนี้ตำรวจสืบทราบแล้วว่า ขบวนการลักรังนกพัทลุงมีการเชื่อมโยงระหว่างใครกับใคร ใครเป็นผู้สั่งการ ใครเป็นผู้บงการ เส้นทางการเงินเป็นไปแบบไหนบ้าง ขอเวลาให้ตำรวจสักระยะหนึ่งรับรองได้ว่า งานนี้ชาวพัทลุงจะไม่ผิดหวังการทำงานของตำรวจอย่างแน่นอน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว
ก่อนหน้าที่ตำรวจจะแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาชุดที่ 2 นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันเดียวกัน นายอารี ไกรนรา รองประธานคณะกรรมาธิการปกครอง คนที่ 1 สภาผู้แทนราษฎร และคณะ จำนวน 25 คน ได้เดินทางมาสำรวจตรวจสอบสภาพแวดล้อม สภาพทั่วไปบนเกาะรังนก โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง และนายเด่น เทพกล่ำ คณะทำงานกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชนพัทลุง พร้อมคณะ ร่วมให้การต้อนรับ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบริษัทสยามเนสท์ จำกัด ท้องที่ หมู่ 9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จากนั้นนายอารีและคณะได้นั่งเรือสำรวจสภาพพื้นที่โดยทั่วไปของเกาะรังนก เพื่อสำรวจเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางการขโมยรังนกของกลุ่มคนร้าย คณะกรรมาธิการฯได้ลงไปสำรวจถ้ำรื่น ถ้ำเนียงเคย และสำนักงานของบริษัทรังนก หลังสำรวจแล้วคณะกรรมาธิการฯ บางคนถึงกับพูดหลุดปากว่า รู้สึกงุนงงสงสัยว่าคนร้ายเข้าไปขโมยรังนกได้อย่างไร ทั้งๆที่บางถ้ำต้องผ่านเส้นทางสำนักงานฯไปยังถ้ำรังนก
นายอารี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสำรวจตรวจสอบการขโมยรังนก มีขั้นตอนรักษาความปลอดภัยถึง 3 ชั้น คนร้ายจึงไม่น่าเข้ามาลักขโมยรังนกได้หาก จนท.รัฐไม่มีส่วนรู้เห็นและเป็นใจ เปรียบเหมือนบ้านหลังหนึ่งที่มีคนเฝ้าประตูหน้าบ้าน บริเวณบ้าน และประตูเข้าบ้าน แต่คนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินในบ้านจนได้ เรื่องนี้ไม่ทราบว่าคณะกรรม การรังนกฯ จะตอบคำถามจากสังคมได้อย่างไร แต่ทางคณะกรรมาธิการฯ พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่อยากจะพูดว่าใครทำหน้าที่บกพร่อง ผิดพลาด และ จนท.รัฐมีผลประโยชน์ทับซ้อนบ้างหรือไม่ เรื่องที่เห็นและพบในวันนี้นั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ จะนำไปสรุปผลการติดตามและพูดคุยในประเด็นต่างๆในห้องประชุม อบจ.พัทลุง จากนั้นจะนำการสรุปผลไปแจ้งให้คณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบต่อไป ส่วนใครจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีรังนก ใครอยู่เบื้องหลัง และใครเป็นผู้สั่งการการรักรังนก คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้
ทีมข่าวไทยแหลมทองที่ทำงานร่วมกับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่า พล.ต.อ. สุชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สืบสวนจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดให้ได้ทั้งขบวนการ เนื่องจากเป็นขบวนการที่ทำกันมานานในหลายจังหวัด และท้าทายกฎหมายมาตลอด โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ลงพื้นที่ไปสืบสวนอย่างเงียบๆ ที่ จ.ชุมพร และหลายจังหวัด พร้อมทั้งส่งทีมตำรวจคอยประกบและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งทางตำรวจได้แยกกลุ่มผู้ต้องหาเป็นระดับต่างๆ อาทิ แถว 1 ระดับปฏิบัติการเข้าร่วมขโมยรังนก แถว 2 ระดับผู้สั่งการ มีทั้งข้าราชการและ จนท.รัฐ รวมถึงระดับหัวหน้างาน และแถว 3 ผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในภาคใต้ว่า มีทั้งนักการเมือง อดีต สจ.และนายทุนที่ร่วมขบวนการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากข่าวการออกหมายจับผู้ต้องหาชุด 2 แพร่ออกไป และตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ กลุ่มบงการที่มีนักการเมืองและอดีต สจ. รวมทั้งนายทุนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ใครถูกจับบ้าง พร้อมกับสั่งเครือข่ายให้แจ้งผู้ร่วมขบวนการที่คาดว่าอาจจะถูกจับอีก ให้ปิดปากไม่ให้เปิดเผยสาวไปถึงกลุ่มบงการ ในขณะที่กลุ่มข้าราชการและ จนท.รัฐ เริ่มไม่พอใจที่จะถูกตัดตอนให้เป็นแพะในคดีนี้ฝ่ายเดียว ถึงกับหลุดปากว่า “จะโยนให้กูรับคนเดียวหรือ” ขณะเดียวกันกลุ่มบงการเริ่มเคลื่อนไหวจะขนย้ายรังนกจากการขโมยส่วนใหญ่ ที่ยังซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ดูแลของนักการเมือง แต่มีการทักท้วงว่าให้ระวังจะถูกตำรวจซ้อนแผนจับกุมได้ เนื่องจากสงสัยว่าตำรวจปิดปากเงียบ ไม่มีการพูดถึงรังนกที่ถูกขโมยเลย เกรงว่าจะเป็นแผนล่อให้ตายใจและขนย้ายออกมาแล้วจับกุม ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.