ตร.ได้หลักฐานมัดตัว จนท.รัฐ สั่งลักรังนกพัทลุง -ด้านกลุ่มบงการส่ังตามล่าผู้สื่อข่าวเจาะเครือข่าย
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 พ.ย. 2564, 19:00 น. อ่าน : 1,069
พัทลุง-ตำรวจเตรียมส่งสำนวนการสอบสวนให้ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีรังนก ส่วนคนงานรับจ้างแทงรังนกในพื้นที่ ต.เกาะลิบง จ.ตรัง เผยถูก จนท.ฝ่ายปกครองจ.พัทลุง หลอกให้มาแทงรังนก อ้างนำเงินเข้าส่วนกลางที่ถูกกฎหมาย ด้านกลุ่มบงการสั่งลูกน้องควานหาตัวตามล่าทีมข่าวที่ไปขุดคุ้ยเครือข่าย
ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีลักรังนกอีแอ่นครั้งมโหฬาร ที่เกาะสี่เกาะหา ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ยังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป เพื่อให้ได้ตัวกลุ่มบงการที่อยู่เบื้องหลัง โดย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ผู้ควบคุมคดี และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้กำชับให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.กองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนก ร่วมกับ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว. พัทลุง เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติจับกุมผู้ต้องหาที่อยู่เบื้องหลังเพิ่มเติมอีก นอกเหนือจากที่ออกหมายจับและหมายเรียกตัวรับทราบข้อหาแล้ว 38 ราย
ส่วนกรณีนายกรีณรงค์ ชาตรี ผู้สมัครเลือกตั้ง นายก อยต.เกาะหมาก ที่ออกมาร้องเรียนเรื่องการลักรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง และถูกข่มขู่เอาชีวีตจนไม่กล้าออกหาเสียงนั้น หลังจากได้รับการร้องเรียนขอคุ้มกันความปลอดภัยจาก นายกรีณรงค์แล้ว พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. สิทธิ์วโรจน์ นวลเปียน รรท.สว.สภ.เกาะนางคำประสานงานกับฝ่ายปกครอง อ.ปากพะยูน เพื่อจัดกำลังให้ความปลอดภัยในขณะมีการหาเสียงตามสถานที่และท้องที่ต่างๆแล้ว พร้อมกันนั้นให้จัดชุดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไปให้ความปลอดภัยแก่นายกรีณรงค์ นอกจากนี้ บก.ภ.จว.พัทลุงนั้น ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง ได้จัดกำลังเข้าไปรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ร่วมกับ ตร.สภ.ปากพะยูน ช่วงการหาเสียงและก่อนการเลือกตั้งนายก อบต.รวมทั้งตั้งจุดตรงจจุดสกัดตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธในพื้นที่ด้วย โดยมอบหายให้ พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับ ดูแล เฝ้าระวังมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น
ความคืบหน้าคดีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวันนที่9 พ.ย. พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.กองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนกของ สตช.และ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง หัวหน้าชุดสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง และพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันรวบรวมสำนวนการสอบสวน การขยายผลการสอบปากคำพยานทั้งในและต่างจังหวัด เพื่อนำไปสู่การขยายผลยื่นขอหมายจับต่อกลุ่มผู้ต้องหาในแถวที่ 4 ต่อไป
สำหรับสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวเกือบจะแล้วเสร็จแล้ว คาดว่าน่าจะรวบรวมสำนวนการสอบสวนส่งไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อให้ ป.ป.ช.ส่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาในคดีรังนกไปยังอัยการศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบตามขั้นตอน ในส่วนของสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้าน 1 ราย และ อส. 1 รายนั้น นายธนะ อาษาวุธ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง ได้นำสำนวนการสอบสวนดังกล่าวมาส่งมอบให้ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เพื่อยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 รายต่ออัยการศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบตามขั้นตอนแล้ว
ทีมข่าวไทยแหลมทองซึ่งทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจจากส่วนกลางรานงานว่า จากการที่พนักงานสอบสวนคดีรังนกของ สตช.ฝและ ภ.จว.พัทลุง ได้เดินทางไปสอบปากคำกลุ่มคนงานแทงรังนกในพื้นที่ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งตำรวจกันไว้เป็นพยานในคดีดังกล่าว จำนวน 7 คนนั้น ต่างให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในแนวทางที่เหมือนกันว่า ช่วงต้นเดือนก.ย. 2564 ได้รับการติดต่อจาก จนท.รัฐรายหนึ่งให้เข้ามาแทงรังนกในหมู่เกาะสี่เกาะห้า โดย จนท.รัฐรายนี้บอกว่าเป็นการแทงรังนกที่ถูกกฎหมายเพราะต้องการนำเงินเข้าจังหวัด เมื่อพวกตนเดินทางมาถึง จ.พัทลุง ถูก จนท.รัฐยึดโทรศัพท์มือถือ และนำลงเรือหางยาวไปแทงรังนกตามถ้ำต่างๆ
คนงานแทงรังนกเปิดเผยอีกว่า จนท.รัฐผู้เกี่ยวข้องจะนำเรือหางยาวมาส่งอาหารให้ทั้ง 3 มื้อ พร้อมกับนำรังนกกลับไป หลังจากที่แทงรังนกได้ 7 วันจึงรู้ว่าโดนหลอกแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมของ จนท.รัฐน่าสงสัย พวกตนจึงขอกลับเข้าฝั่งเพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยได้รับค่าตอบแทนในการแทงรังนกคนละ 10,000 บาท หลังจากข่าวดังกล่าวฉาวโฉขึ้นเลยทราบว่าพวกตนถูกหลอกจริงๆ จึงเข้าให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวนดังกล่าว ส่วน จนท.รัฐและบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นใครบ้างนั้นพยานเหล่านี้ให้รายละเอียดแก่พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว
กลุ่มพยานเหล่านี้เปิดเผยอีกว่า เคยรับจ้างแทงรังนกให้กับบริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ผู้ได้รับการสัมปทานการจัดเก็บรังนกฯเมื่อครั้งที่ผ่านมา ที่เกาะรังนก ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน ร่วมกับคนงานจากพื้นที่ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ประมาณ 40-50 คน ในช่วงต้นเดือน เม.ย.2564 ซึ่งเป็นช่วงการเก็บรังนกในครั้งที่ 1 หลังจากนั้นคนงานรับจ้างแทงรังนกเหล่านี้ก็ไม่ได้เข้ารับจ้างแทงรังนกของบริษัทอีกเลย หลังจากที่ว่างเว้นการสัมปทานรังนกฯจึงถูกหลอกให้เข้ามาแทงรังนกดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการให้ปากคำของกลุ่มคนงานดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่าจากการที่ทางบริษัทรังนกฯไม่ได้จัดเก็บรังนกในครั้งที่ 2 ในช่วงปลายเดือน เม.ย.- พ.ย.2564 เพื่อเป็นการเพิ่มประมาณพันธุ์นกอีแอ่นให้มากขึ้น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นของจังหวัดพัทลุงนั้น จะมีรังนกที่จะจัดเก็บได้ในช่วงการจัดเก็บรังนกในครั้งที่ 2 เป็นจำนวนมาก ดังนั้นกระแสข่าวที่ลือสะพัดว่าทางบริษัทลักลอบแทงรังนกจึงไม่ใช่เป็นเรื่องจริง ส่วนมูลค่ารังนกที่ถูกขโมยไปในครั้งนี้ที่มีการลักลอบขายกันในตลาดมืดทั้งในและต่างจังหวัดนั้นจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท ทำให้ชาวพัทลุงหลายคนสงสัยว่าเงินดังกล่าวตกอยู่ที่ใคร ใครเป็นผู้บงการ และสั่งการให้ จนท.รัฐ และพลเรือน เข้าไปขโมยรังนกในครั้งนี้
ทางด้านเครือข่ายขบวนการลักรังนกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มบงการได้สั่งลูกน้องออกควานหาตัวทีมข่าวที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่าย สั่งตรวจสอบคนนอกพื้นที่ที่เข้าไปในเขต จ.พัทลุง โดยเฉพาะ อ.ปากพะยูน และสั่งห้ามลูกน้องรวมทั้งคนในเครือข่าย พูดคุยกับคนในครอบครัวเรื่องการลักรังนก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำข้อมูลความเคลื่อนไหวของขบวน การ ไปแพร่งพรายให้ผู้สื่อข่าวที่แฝงตัวมาใกล้ชิดได้ทราบโดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันผู้ใกล้ชิดเครือข่ายได้แจ้งให้ทีมข่าวออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.
