ได้ตัวครบแล้ว 6 คน. ผู้ต้องหาขโมยรังนกชุดแรก -ส.ส.พัทลุงให้ ปปง.สอบเส้นทางการเงิน
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 8 ต.ค. 2564, 22:00 น. อ่าน : 3,041พัทลุง-ผู้ต้องหาอีก 2ใน 6 ที่ถูกออกหมายจับชุดแรก ในคดีขโมยรีงนกอีแอ่น จ.พัทลุง ครั้งมโหฬาร ทยอยเข้ามอบตัวแล้ว ระดมชุดสืบสวนเร่งสอบปาก โดยผบช.ภ.9 ลงดูแลการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนก่อนนำตัวส่งศาลและคัดค้านการประกันตัว ด้าน ส.ส.นริศ ขำนุรักษ์ ขอให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ร่วมขบวนการขโมยรังนก
คดีขโมยรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน โดยผู้ร่วมขบวนการมีหลายกลุ่มรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ คดีเริ่มคืบหน้า หลังจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.นำชุดสืบสวนสอบสวนลงไปลุยคดีด้วยตนเอง จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรก 6 คน เมื่อตอนดึกวันที่ 6 ต.ค.2564 และวันที่ 7 ต.ค.64 สามารถรวบตัวได้ 4 ราย คือนายอรุณ ธรรมศรี และนายวีระ ล่ำไล่ อีก 2 คนเป็น อส.คือนายนุกูล ย้อยแสง และนายสวัสดิ์ เพิ่มเดช สร้างฮือฮาให้กับชาวพัทลุงและประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามข่าวดังกล่าวตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวรานงานมาวันนี้(8 ต.ค.2564)ว่า เมื่อตอนดึกคืนวันที่ 7 ตุลาคม นายประชนภัย ลำไล่ อายุ 45 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 6 ต.ปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.341/2564 ลงวันที่ 6 ต.ค.2564 ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ จากนั้นตำรวจได้นำผู้ต้องหาดังกล่าวไปควบคุมตัวที่ห้องขังของ สภ.เมืองพัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ นายสมพร พูลแก้ว อายุ 48 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 5 ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.343/2564 ลงวันที่ 6 ต.ค. 2564 ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุงที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เป็นคนสุดท้ายของหมายจับชุดแรก ที่ตำรวจได้ตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามหมายจับ
หลังจากนั้นตอนสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้ระดมพนักงานสอบสวนฝีมือดีจากโรงพักต่างๆ ประมาณ 10 นาย มาร่วมกันสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ที่ฝากขังอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองพัทลุง โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เดินทางมาใช้ศูนย์ประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เป็นเป็นสถานที่การประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้มาควบคุมดูแลการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตนเอง เพื่อให้การสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาเป็นไปอย่างรัดกุม และจะเป็นส่วนสำคัญในการขยายผลไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นๆต่อไป
ส่วนการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ให้การภาคเสธ ในขณะที่ทาง พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดงานสอบสวนในคดีดังกล่าว กำหนดนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทลุง ในวันที่ 9 ต.ค.2564 โดยตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว
ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า จากกรณีกลุ่มบุคคลลักทรัพย์รังนกจากหมู่เกาะสี่-เกาะห้า รวมทั้งการทำลายทรัพยากรนก โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลผู้ใกล้ชิดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินคดีนี้ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความโปร่งใส มีการตรวจสอบที่เป็นระบบ จึงขอความอนุเคราะห์ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ร่วมกระทำความผิดและผู้ใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินคดีนี้เกิดความสมบูรณ์ และเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเช้าตรู่วันนี้ได้มีพลเมืองดีแจ้งให้ฝ่ายปกครองอำเภอปากพะยูนทราบว่า มีชาวบ้านไม่ทราบชื่อและจำนวน ได้ขึ้นป้ายตามจุดต่างๆ จำนวน 5 จุด ตามพื้นที่ต่างๆของ อ.ปากพะยูน เพื่อเรียกร้องให้ ผวจ.พัทลุง ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ปล่อยให้มีการขโมยรังนก และการทำลายลูกนก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ปากพะยูนได้ออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จึงได้ปลดป้ายทุกจุดนำไปเก็บไว้ที่ที่ว่าการอำเภอปากพะยูน และเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ปิดป้ายดังกล่าว รวมถึงสืบหาข้อเท็จจริงในการขึ้นป้ายครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ขณะเดียวกันผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งที่ใกล้ชิดคณะกรรมการรังนกฯ เปิดเผยว่า คดีนี้ขอให้ตำรวจดำเนินการจับกุมให้ถึงรากถึงโคน แม้ว่าจะต้องใช้เวลาก็ต้องทำให้ได้ เพราะขบวนการพวกนี้ทำกันมานานแล้วในหลายจังหวัด แต่มาขโมยครั้งมโหฬารที่ จ.พัทลุง ครั้งนี้ คงจะย่ามใจที่เห็นรังนกมีเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับได้ รวมทั้งการจุดไฟในถ้ำรังนกเขาไม่ทำกัน ไม่ว่าจะเพื่อปรุงอาหารหรือต้องการไล่นกก็ตาม เพราะควันไฟจะไปฆ่าแม่นกและลูกนก ยิ่งมาเห็นซากนกตายกับพื้นถ้ำยิ่งสลดใจ ไม่เคยมีเช่นนี้มาก่อน และที่เป็นเรื่องน่าอายมากที่ครั้งนี้มีข้าราชการในจังหวัดร่วมสั่งการ และหลังบ้านข้าราชการรับผลประโยชน์มาค่อยกำชับด้วย ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.