เตรียมออกหมายจับกลุ่มขโมยรังนกฯ -ชาวพัทลุงชุมนุมให้ย้าย ผวจ.ไม่ผิดจึงให้กลับ
หมวดหมู่ : การเมือง, เศรษฐกิจ, พัทลุง,
โฟสเมื่อ : 21 ก.ย. 2564, 22:00 น. อ่าน : 1,601พัทลุง-ตำรวจเดินหน้าตรวจดีเอ็นเอ พนักงานบริษัทรังนกและ จนท.ที่เกี่ยวข้อง เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาขโมยรังนก ขณะเดียวกันชาวพัทลุง 300 คน ชุมนุมหน้าศาลากลาง โจมตีการทำงานของ ผวจ.และคณะกก.รังนกฯ และเสนอให้ย้าย ผวจ.ระหว่างสอบสวน ไม่ผิดค่อยให้กลับมา ส่วนนายก อบจ.พัทลุงเผยเตรียมนำหลักฐานเด็ดออกแฉ หากการเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบล้มเหลว ด้าน บช.ภ.9 เตรียมย้ายตำรวจบางนายออกนอกพื้นที่
ความคืบหน้าคดีขบวนการขโมยรังนกอีแอ่นในถ้ำบนเกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ทำลายนกนับล้านตัวอย่างโหดเหี้ยม จนกระทั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดศึก ผบตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุขาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีมลงมาสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขบวนการนี้ โดย พล.ต.อ.สุขาติ นำตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ร่วมกับชุดสืบสวน บก.ถ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ ลงพื้นที่เกาะรังนก ปรากฏว่าเก็บหลักฐานได้จำนวนมาก ทีมข่าวไทยแหลมทอง ซึ่งทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจของหนังสือพิมพ์จากส่วนกลาง รายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้(21ก.ย.2465) พล.ต.อ.สุชาติ ได้เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง และมีการมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ทั้งในจังหวัดพัทลุงและนอกจังหวัด เพื่อขยายผลสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆนั้น ชุดเก็บพยานหลักฐานภายในถ้ำ ยังคงให้ จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุงรับผิดชอบ โดยตอนสายวันเดียวกัน ได้เข้าเก็บดีเอ็นเอของพนักงานบริษัทฯทุกคนบนเกาะรังนก ที่บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัทท้องที่ หมู่9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้วแล้ว นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ สตช.และ บก.ภ.จว.พัทลุง ได้เข้าตรวจสอบรายละเอียดในการจัดเก็บหลักฐานด้านเคมี ฟิสิก และนิติวิทยาศาสตร์ ภายในถ้ำรื่นอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การคลี่คลายคดีมีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 70 สามารถทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว หลังจากเก็บหลักฐานยานบุคคล ด้านเคมี ฟิสิก และนิติวิทยาศาสตร์ ได้ครบจะสามารถขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาได้
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง นายเกลื่อม พูลสง ประธานกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชนพัทลุง พร้อมด้วยนายบุญพา เกื้อทอง อดีต สจ.พัทลุง และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการรังนกฯในชุดที่ผ่านมา พร้อมคณะได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ที่มาตั้งศูนย์ปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายขโมยรังนก ผ่านไปยัง ผบ.ตร. ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้ ผบ.ตร.ได้สอบสวนว่ามี ตำรวจเข้าไปมีส่วนร่วมในการขโมยรังนกอีแอ่นหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนร่วมก็ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาโดยเฉียบขาด รวมทั้งเร่งดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำความผิดในการขโมยรังนกฯ การทำลายล้างประชากรนก มาลงโทษโดยเร็ว แต่เนื่องจาก พล.ต.อ.สุชาติ ติดการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ หรือ ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รายงานการตรวจสอบเรื่องขโมยรังนกให้ ผบ.ตร.ได้รับทราบ ที่ห้องประชุมเล็ก บก.ภ.จว.พัทลุง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวแทน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการขโมยรังนก และการทำลายล้างประชากรรังนกบนเกาะรังนกที่ จ.พัทลุง ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตำรวจนั้น มีรายงานข่าวว่า กำลังมีการเสนอให้ตำรวจบางนายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ บช.ภ. 9 จำนวนหนึ่ง เพื่อให้การสืบสวนสอบสวน และการคลี่คลายในคดีดังกล่าวสะดวกคล่องตัว และเพื่อเป็นการสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในเวลาประมาณ 14.30 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายเกลื่อม พูลสง ประธานกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชนพัทลุง พร้อมด้วย สจ.พัทลุง และชาวบ้าน ได้มารวมตัวกันเปิดเวทีปราศัยกล่าวโจมตีการทำงานของนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการรังนกฯท่ามกลางฝนตกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมประมาณ 300 คน และมีการไลฟ์สดทางเฟสบุ๊กด้วย ซึ่งตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่าหากนายกู้เกียรติฯ จะฟ้องร้องชาวบ้านก็ไม่สมควรนั่งในตำแหน่ง ผวจ.พัทลุง
นายเกลื่อมกล่าวว่า กลุ่มพิทักษ์ฯขอเรียกร้องให้สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงสิ่งที่เกิดขึ้น และขอเรียกร้องให้ รมว.มหาดไทย ได้พิจารณาโยกย้าย ผวจ.พัทลุง ออกนอกพื้นที่ เพื่อให้การตรวจสอบฯดำเนินการไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม หากไม่มีความผิดก็ให้ย้ายกลับมานั่งที่เดิม และทางกลุ่มฯจะรอฟังผลการเรียกร้องภายใน 7 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าทางกลุ่มพิทักษ์ฯและประชาชนจะมาทวงถาม ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฯต่อไป หลังจากนั้นนายเกลื่อมได้มอบหนังสือการร้องเรียนผ่าน พ.อ.พิชิต โชติแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพัทลุง(ฝ่ายทหาร)ไปยัง ผวจ.พัทลุง และเลิกการชุมนุมแยกย้ายกันกลับเวลาประมาณ 17.30 น.
ทางด้านนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง เปิดเผยว่า หลังจากที่สัญญาการสัมปทานรังนกฯจะหมดลงในวันที่ 14 มิ.ย.64 นั้น ตนได้นำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบสภาพรังนก พบว่ารังนกมีหนาแน่นในทุกๆถ้ำ แต่หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป ได้มีการขโมยรังนกกันมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ตนทราบข่าวได้ขออนุญาตนำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจถ้ำรังนกอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางจังหวัด ดังนั้นเหตุการณ์รังนกถูกขโมย ทรัพยากรนกถูกทำลายล้างโดยมูลค่ามหาศาลนั้นจะต้องมีผู้ออกมารับผิดชอบ ส่วน จนท.รัฐบางรายที่สังคมมองว่ามีส่วนร่วมในการสร้างวีรกรรมที่โหดร้ายนั้น ตนคาดว่า จนท.รัฐเหล่านี้น่าจะได้รับไฟเขียวจากผู้รับผิดชอบในการเฝ้ารังนกของหน่วยงานรัฐทั้ง 4 หน่วยงาน
ดังนั้นหากการออกมาเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบในกรณีดังกล่าวของนายเกลื่อม พูลสง ประธานกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชนพัทลุง และประชาชนชาวพัทลุง ไม่ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ ตนจะนำข้อมูลและหลักฐานเด็ดๆมาแฉให้สาธารณชนได้รับทราบ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.64 เป็นต้นไป และหากนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง และคณะกรรมการรังนกฯทุกคน เห็นว่าได้ปฏิบัติหน้าที่การสัมปทานรังนกด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม รวมทั้งไม่มีส่วนร่วม ไม่มีส่วนรู้เห็นในการขโมยรังนกในครั้งนี้ ตนก็ขอเรียกร้องให้นายกู้เกียรติ ฯ คณะกรรมการรังนกฯ และ จนท.รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเฝ้ารังนก ได้นำ จนท.รัฐทั้ง 4 ฝ่าย มาสาบานความบริสุทธิ์ใจหน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ(พระสี่มุมเมือง) ที่ชาวพัทลุงให้ความนับถือ ทั้งนี้เพื่อให้ชาวพัทลุงได้หายสงสัยในการขโมยรังนกของ จนท.รัฐในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจาก พล.ต.อ.สุขาตินำทีมลงมาสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ตัวการใหญ่ขบวน การขโมยรังนกครั้งมโหฬารครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแผนที่จะขนย้ายรังนกที่ขโมยมาไปซ่อนที่อื่น เนื่องจากว่าเกรงจะถูกตำรวจชุดสืบสวนซ้อนแผนดักจับ และได้หารือกับนักการเมืองที่หนุนหลังเพื่อหาทางออก แต่นักการเมืองดังกล่าวยังไม่กล้าออกหน้า ในขณะที่ข้าราชการในจังหวัดที่มีส่วนรู้เห็นด้วย ได้พยายามติดต่อผู้ใหญ่หาทางเอาตัวรอด โดยการแลกกับการเปิดโปงขบวนการขโมยรังนกครั้งนี้ และข้าราชการสีต่างๆ อีกหลายคนต่างนั่งไม่ติด เพราะเกรงว่าจะถูกสาวมาถึง ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.