“สวนขวัญใจ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข” อ.ควนขนุน จ.พัทลุง แหล่งท่องเที่ยว”ตลาดต้องชม”ของ จ.พัทลุง เตรียมเปิด วันที่ 30-31 พ.ค.นี้ หลังจากจัดบิ๊ิีกคลีนนิ่งทำความสะอาด และประชุมผู้ค้าให้เข้าถึงมาตรการควบคุมการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนเป็นที่เข้าใจ
นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง นางสาวศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอควนขนุน นางขวัญใจ กลับสุกใส เจ้าของสวนขวัญใจ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พ่อค้าแม่ค้า และ จนท.สนง. การท่องเที่ยวฯ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "Big Cleaning Day” สวนไผ่ขวัญใจ ตลาดป่าไผ่สร้างสุขและจัดประชุมพ่อค้า แม่ค้าในตลาดดังกล่าวเ เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดตลาดและเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้สั่งการให้ สนง.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมโดยทันที หลังจากที่การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด –19 ได้ยุติลง และจากการประชุมของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดดังกล่าว ในที่ประชุมได้มีมติให้มีการเปิดตลาดตั้งแต่ในวันที่ 30–31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป หลังจากตลาดดังกล่าวปิดตลาดในช่วงไวรัสโควิด–19 ระบาดมาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน
ทั้งนี้นายสุรัตน์ เผยว่าสวนไผ่ขวัญใจ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข เป็นตลาดที่เปิดบริการในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ ซึ่งเป็น “ ตลาดต้องชม” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคใต้และในระดับประเทศ พื้นที่ของตลาดเป็นพื้นที่ปลูกไผ่เนื้อที่ 30 ไร่ มีร้านค้า 168 ร้าน เป็นตลาดที่ปลอดโฟม ปลอดขยะ วัสดุที่นำมาใส่อาหาร เครื่องดื่ม ส่วนใหญ่มาจากไม้ไผ่ อาหารที่นำมาจำหน่ายทางตลาดจะเน้นด้านสุขภาพ อนามัย อาหารที่มีชื่อเสียงของ จ.พัทลุงที่มีราคาไม่แพง นำศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านเข้ามาเผยแพร่ ฯลฯ ทำให้ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดดังกล่าวประมาณ 8,000 – 10,000 คน/วัน จนสามรถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงในขั้นที่น่าพอใจยิ่ง
“การเปิดตลาดในครั้งนี้ทางอำเภอ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ทางอำเภอ ฯ และเจ้าของกิจการ จะนำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 -ของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และผู้เข้ามาใช้บริการอย่างจริงและต่อเนื่อง และมั่นใจว่าเมื่อไวรัสโควิด-19 ยุติลง กระทรวงการท่องเที่ยวฯก็จะสามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในตลาดดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน” นายสุรัตน์ กล่าว.