AAV ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ทั่วไป, ท่องเที่ยว, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 14 ส.ค. 2564, 17:19 น. อ่าน : 2,457ปรับเเผนไตรมาส 3
หยุดบินชั่วคราวตามมาตรการรัฐ พร้อมเสริมเเกร่งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
เเละธุรกิจขนส่งทางอากาศ
กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม
2564 - บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (“AAV”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
บจ.ไทยแอร์เอเชีย (“TAA”) เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564
มีรายได้รวม 1,081 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุน 1,692 ล้านบาท โดยหลักจากสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
(“โควิด-19”) ที่รุนเเรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเละสายการบิน
ทั้งนี้ในไตรมาส 2 TAA มีจำนวนผู้โดยสาร 721,794 คน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 155 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หนุนจากความต้องการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ และเป็นผลมาจากการหยุดให้บริการบินชั่วคราวในปีที่แล้ว
ส่งผลให้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 61 เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่ร้อยละ 52
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย
กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 AAV ยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเเผน
โดยหลักมาจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ในประเทศที่รุนเเรงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้เราจะพยายามทุกวิถีทางในการปรับตัว
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรักษากระเเสเงินสด
รวมทั้งการจัดหาเเหล่งเงินทุนจากหลายช่องทาง
ทั้งแผนการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างกิจการ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ
เเละเงินกู้ยืมเพื่อรักษาสภาพการจ้างงานพนักงานจากภาครัฐที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
“ในเดือนเมษายน 2564
เกิดการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่และสายพันธุ์ที่หลากหลาย ส่งผลต่อการดำเนินงานในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนอย่างชัดเจน
ส่งผลให้สายการบินจึงจำเป็นต้องปรับลดและจัดการปริมาณเที่ยวบินอย่างเหมาะสม
เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องธุรกิจ
ควบคู่กับการประคองผลประกอบการทั้งในระยะสั้นเเละระยะยาว” นายสันติสุข กล่าว
ทั้งนี้เมื่อสรุปผลประกอบการไตรมาส
2 ปี 2564 AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,081 ล้านบาท ขาดทุนจำนวน 1,692 ล้านบาท
จากขาดทุนสุทธิจำนวน 1,141 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2563 โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากฐานที่ต่ำซึ่งเป็นผลมาจากการหยุดให้บริการบินชั่วคราวในเดือนเมษายน 2563
ส่วนรายได้ค่าระวางสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 682 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หนุนจากจำนวนเที่ยวบินขนส่งสินค้า 132 เที่ยวบินในไตรมาสนี้
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง
ทำให้ครึ่งปีเเรก AAV
มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,431 ล้านบาท และขาดทุนจำนวน 3,556
ล้านบาท โดยรายได้รวมลดลงร้อยละ 75
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงร้อยละ 65
และค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลงร้อยละ 26 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องระงับเส้นทางบินระหว่างประเทศทั้งหมด
ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 49 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง
ตามนโยบายขอความร่วมมือให้พนักงานใช้สิทธิการลาโดยไม่รับค่าจ้างในระยะสั้นและระยะยาว
รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก็ลดลงตามจำนวนเที่ยวบินเมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับครึ่งหลังปี
2564 ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
เราได้รับสัญญาณที่ดีจากนโยบายในการเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ผ่านทาง ภูเก็ต เเซนด์บอกซ์ ซึ่งทำให้เราปรับเพิ่มเที่ยวบินเข้าเเละออกภูเก็ต
เเต่หลังจากนั้นสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยกลับมารุนแรงมากขึ้น
และแผนการกระจายฉีดวัคซีนทั่วประเทศยังช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ประกาศให้ทุกสายการบินห้ามทำการบินเข้าเเละออกในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเเละเข้มงวด
สายการบินจึงต้องประกาศหยุดบินชั่วคราวทุกเส้นทางอีกครั้ง
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พร้อมปรับแผนกลยุทธ์ในการประคองธุรกิจ
เสริมด้วยโอกาสใหม่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ช เเละธุรกิจขนส่งทางอากาศ
ที่เห็นการเติบโตอย่างโดดเด่น
นายสันติสุข กล่าวว่า การที่กลุ่มเเอร์เอเชียได้เข้าซื้อกิจการของ Gojek ประเทศไทย และเริ่มเปิดให้บริการผ่าน airasia super app ถือเป็นการตอกย้ำว่าต่อจากนี้แอร์เอเชียจะไม่ใช่เเค่สายการบิน จะมีสินค้าบริการใหม่ๆ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ สร้างระบบนิเวศธุรกิจต่อยอดได้หลากหลายมากขึ้น ผ่านแบรนด์แอร์เอเชียที่เเข็งเเกร่ง รวมทั้งการพัฒนาด้านการขนส่งทางอากาศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีอนาคตที่ดีและสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับธุรกิจน่าพอใจ
“โจทย์สำคัญที่สุดในครึ่งปีหลัง คือการสร้างวินัยทางการเงินเเละเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ พร้อมประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอด ซึ่งเราเชื่อว่านโยบายระยะสั้นต่างๆ ที่เราออกไป จะช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ภายนอกที่เกิดขึ้นได้ดี อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวเดินทางเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมาทดเเทนได้ ช่วงเวลานี้ทุกคนต้องช่วยกันดูเเลตัวเอง เเละเมื่อโอกาสมาถึง จะมีความต้องการเดินทางจำนวนมาก ซึ่งไทยแอร์เอเชียก็พร้อมกลับมาเติบโตได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง” นายสันติสุข กล่าว.