กรุงเทพฯ-โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยไทม์ไลน์ การข่วยเหลือหญิงไทยติดโควิด-19 เสียขีวิตที่อินเดีย ญาติขอให้สถานทูตไทยช่วยฌาปนกิจศพและนำอัฐิกลับเมืองไทย
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีข่าวหญิงไทยเสียชีวิตที่อินเดียจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้ประสานกับญาติและผู้ดูแลหญิงไทยดังกล่าว ดังนี้
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้รับการติดต่อจากญาติของหญิงไทยซึ่งพำนักอยู่ในอินเดียว่า หญิงไทยรายดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 อาการสาหัส และรักษาตัวอยู่ที่ รพ. Dr. Ram Manohar Lohia เมืองลัคเนาว์ รัฐอุตตรประเทศ โดยญาติแจ้งว่าหญิงไทยรายดังกล่าวกำลังอาการสาหัส โดยมีระดับออกซิเจนในกระแสเลือดอยู่ที่ประมาณ 50-70 และขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ช่วยเหลือ เพื่อส่งตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ขอรายละเอียดผู้ที่สามารถติดต่อได้ในอินเดียที่ให้การดูแลผู้ป่วยอยู่ เพื่อให้ช่วยประสานงานกับ รพ. Dr. Ram Manohar เพื่อหารถพยาบาลมาส่งผู้ป่วยที่กรุงนิวเดลี พร้อมทั้งให้ติดต่อกับแพทย์ที่ดูแลเพื่อให้ความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสามารถเดินทางได้ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดหารถพยาบาลเตรียมไว้
ต่อมาเช้าวันที่ 30 เมษายน 2564 ญาติแจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ ว่าได้โทรศัพท์สอบถามหญิงไทยรายดังกล่าวแล้วว่าประสงค์กลับไทยหรือไม่ และได้รับคำตอบว่าอยากขอดูอาการตนเองไปก่อนและยังไม่อยากเดินทางกลับ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ขอบคุณและแจ้งไปว่าหากมีประเด็นเร่งด่วนที่ประสงค์ให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ช่วยเหลืออีกก็สามารถติดต่อได้ทุกเมื่อ
วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลที่อินเดีย ว่าหญิงไทยรายดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว โดยสาเหตุภาวะพร่องออกซิเจนในเลือดจากการติดเชื้อโควิด-19
สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ติดต่อกับญาติที่ประเทศไทย และแจ้งผู้ดูแลถึงขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่ได้หารือกับญาติ ประกอบด้วย 1.ขอให้หารือกับตำรวจท้องที่เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อออกมรณบัตรอินเดีย 2.ญาติขอให้ผู้ดูแลจัดการฌาปนกิจให้เรียบร้อย และส่งอัฐิพร้อมของใช้ส่วนตัว เอกสารที่โรงพยาบาลออกให้ทั้งหมด รวมถึงใบมรณบัตรอินเดีย มายังสถานเอกอัครราชทูตฯ ในโอกาสแรก
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ผู้ดูแลได้จัดการฌาปนกิจหญิงไทยรายดังกล่าว เก็บอัฐิ และติดต่อกับตำรวจเมืองลัคเนาว์แล้ว โดยตำรวจจะออกมรณะบัตรให้ภายใน 7 วันทำการ และจะออกเอกสารการชันสูตรศพ (Post Mortem Report) ให้ด้วย
โฆกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการเต็มที่ตามความประสงค์ของญาติที่ต้องการรับอัฐิและของใช้ส่วนตัวกลับมาในโอกาสแรก แม้ว่ามีแนวโน้มที่กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากหลายเมืองในอินเดียรวมถึงเมืองลัคเนาว์ อยู่ในภาวะปิดเมือง ทำให้ขนส่งพัสดุไม่ได้ และผู้ดูแลไม่สามารถออกนอกเมืองได้ รวมถึงขั้นตอนการออกมรณบัตรใช้เวลานาน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ญาติถึงเหตุผลข้างต้นแล้ว.