ศอ.บต.ประชุมขับเคลื่อนเศษรฐกิจพิเศษจะนะ หลังวิกฤตโควิด-19
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 7 มิ.ย. 2563, 13:21 น. อ่าน : 3,660ศอ.บต.จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ กระบวนการสร้างการรับรู้และการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ในพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจอำเภอจะนะ รองรับการเกิดธุรกิจใหม่ หลังพ้นวิกฤติโควิด-19
เมื่อเช้าวันที่ 6 มิ.ย.2563 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ กระบวนการสร้างการรับรู้และการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ในพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีหน่วยงานภาคเอกชนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุม นำโดยนายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ทั้งนี้เนื่องจากพบว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของพื้นที่ที่ผ่านมาประสบปัญหาทั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวตกต่ำลงตามลำดับ คาดการณ์ว่าอนาคตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ได้นำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจภาคใต้และเศรษฐกิจจังหวัดสงขลาทั้ง 3 ส่วน ล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พบว่าเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ 5 ตัวหลัก ในภาพรวมหดตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อติดลบ และจำนวนการวางงานเพิ่มขึ้น ที่น่าห่วงคือโครงสร้างเศรษฐกิจภาคใต้กว่าร้อยละ 60 ยังคงพึ่งพาภาคเกษตร ท่องเที่ยว การค้าและการผลิตเป็นหลัก และเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดล้วนหดตัวมากขึ้น ในขณะที่รายจ่ายภาครัฐกลับมาหดตัวสวนทางกับประเทศ P*** “คาดการณ์กันว่าจะมีกลุ่มแรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างกว่า 1.7 ล้านคน ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องให้ความสำคัญกับมาตราการฟื้นฟูต่อจากการเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ แรงงาน ภูมิคุ้มกันให้ภาคครัวเรือนและ SMEs ที่เปราะบาง แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องรับความท้าทายของโลกหลังโควิด-19 ที่จะก่อให้เกิดธุรกิจ Sector ใหม่ รวมถึงการโยกย้ายคนและทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายสันติกล่าว
ด้าน นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่าศอ.บต.เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการนำเสนอที่มาและความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ จากการมีเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ ตามที่รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2559 ประกอบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2562 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำใ่นการดำเนินการในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่อำเภอจะนะ เพื่อเป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคตนั้น เป็นการบังคับใช้มาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อร่วมกันกำหนดและเชื่อมโยงมิติการพัฒนาไปพร้อมกัน เน้นการจัดทำโครงการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ไปพร้อมกับแผนพัฒนาของเอกชน
“ผู้บริหารของภาคเอกชนมีความประสงค์จะเข้าร่วมพัฒนาพื้นที่ ร่วมกับรัฐบาลและประชาชน เพื่อยกระดับเมืองจะนะให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งครบวงจร ศูนย์กลางพลังงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมสีเขียว อุตสาหกรรมฐานชีวภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารปลอดภัย และอุตสาหกรรมขนส่งทางราง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่ไปพร้อมกันอย่างสร้างสรรค์ และเน้นย้ำธุรกิจสีเขียว-สีน้ำเงิน ไม่มีปิโตรเคมีในแผนการพัฒนาแน่นอน ตามที่ผู้บริหารระดับสูงสุด ได้มีเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนให้เติบโตไปพร้อมกัน” นายชนธัญ กล่าวย้ำ.