เชฟรอนและจุฬาฯ เตรียมความพร้อมส่ง “รถดมไว” ร่วมคัดกรองในพื้นที่ชุมชน
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 22 ก.ค. 2564, 23:08 น. อ่าน : 2,394 การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว
การตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที
ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โครงการวิจัย
“การใช้สุนัขดมกลิ่นคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” จึงได้ออกแบบ
ห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ “รถดมไว”
เพื่อนำสุนัขดมกลิ่นไปสนับสนุนภารกิจคัดกรองโรคในพื้นที่ชุมชนของกรมควบคุมโรค
หลังการวิจัยพบว่าสุนัขดมกลิ่นมีความแม่นยำในการจำแนกผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากกว่า
96%
โครงการวิจัยดังกล่าว
เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ
คณะแพทยศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ บริษัท พี คิว เอ แอสโซซิเอท จำกัด
เพื่อพัฒนาทักษะสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ จำนวน 6 ตัว
ให้สามารถจำแนกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
และเป็นต้นแบบการฝึกสุนัขดมกลิ่นเพื่องานทางการแพทย์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
โดยเริ่มดำเนินการวิจัยมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 และต่อยอดสู่การพัฒนา
ห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ “รถดมไว” นำโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ
เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการทำงานของสุนัขดมกลิ่นบนรถดมไว
ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการทำงานของสุนัขดมกลิ่นบนรถดมไวเพิ่มเติม
ก่อนนำไปปฏิบัติงานจริง
ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี
ฉัตรดรงค์ คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า“ข้อดีของการใช้สุนัขดมกลิ่นมี
3 ประการ คือ บอกผลฉับไว ไม่เจ็บ และคัดกรองคนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังผลการวิจัยสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ในเดือนมีนาคม 2564 เราจึงนำสุนัขดมกลิ่นมาปฏิบัติงานจริง โดยเริ่มจากคัดกรองพนักงานของทางเชฟรอนที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานนอกชายฝั่งและช่วยสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่
12 จังหวัดสงขลา ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ต่อมาเมื่อมีการระบาดของโรคในกรุงเทพฯ
จึงนำสุนัขดมกลิ่นขึ้นมาตั้งจุดตรวจที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
เพื่อให้บริการคัดกรองแก่บุคลากรจุฬาฯ และผู้ป่วยติดเตียง
โดยความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ซึ่งมีอาสาสมัครลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหงื่อมาส่งตรวจแล้วกว่า 1,500 ราย
ทั้งนี้เป้าหมายต่อไปของโครงการฯ คือขยายการคัดกรองเชิงรุกในคลัสเตอร์ชุมชน
จึงร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ออกแบบห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ ‘รถดมไว’
รวมถึงเตรียมความพร้อมและฝึกฝนสุนัขอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้
การออกแบบของ ‘รถดมไว’ ได้คำนึงถึงการทำงานของทั้งสุนัขดมกลิ่นและเจ้าหน้าที่
รวมถึงผู้ที่เข้ารับบริการ ให้มีความปลอดภัย สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในรถจึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างครบครัน
รวมถึงติดตั้งระบบความดันลบในห้องเตรียมตัวอย่าง ระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV
ในช่องรับส่งตัวอย่าง ห้องเตรียมตัวอย่าง และห้องปฏิบัติงาน
ตลอดจนติดตั้งตู้ยาปฐมพยาบาล ถังดับเพลิง ไฟขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และไฟแจ้งเตือนขณะปฏิบัติงานบนรถ
อีกทั้งยังมีห้องพักสุนัขสำหรับพักผ่อนอีกด้วย
นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ซึ่งในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนงบประมาณเกือบ 20 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งความช่วยเหลือเฉพาะหน้า เช่น การมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องมือต่างๆ รวมถึงการสร้าง know-how เพื่อเสริมศักยภาพการรับมือกับการระบาดของโรคให้กับหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ ซึ่งเชฟรอนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การวิจัยประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถขยายผลสู่การพัฒนา “รถดมไว” ทั้งยังสร้างองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดสู่การฝึกสุนัขเพื่อคัดกรองโรคอื่นๆ ได้ในอนาคต และมีความมุ่งหวังที่จะเห็นการขยายองค์ความรู้สู่ประเทศต่างๆ ที่มีความสนใจในการฝึกสุนัขดมกลิ่นคัดกรองโรค เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับโรคระบาดได้อย่างยั่งยืน”.
นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการวิจัยฯ