ตื่นตาลานวัดเหลืองอร่าม ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ใจ
หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 1 พ.ค. 2564, 13:48 น. อ่าน : 3,068 ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ใจครั้งนี้
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่
อายุกว่า 800 ปี และเช่าหัวนะโม แหวนหัวนะโม รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ ในวัดเขาพระทอง
หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พากันแตกตื่น เมื่อพบว่าบนถนนและลานวัดเปล่งสีเหลืองอร่ามคล้ายทองคำ
เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นใกล้ค่ำวันที่ 26 เม.ย.
มีฝนตกโปรยปรายลงมาและมีลมพัดกรรโชกแรงในวัดเขาพระทอง ทำให้ดอกประดู่ต้นขนาดยักษ์
4-5 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นกระจายอยู่ทั่ววัดจำนวน 10 ต้น ร่วงหล่นจากต้นและปลิวกระจายร่วงหล่นลงบนพื้นลานวัดเป็นบริเวณกว้าง
ทำให้ลานวัดเป็นสีทองเหลืองอร่ามคล้ายกับว่าถนนและลานวัดปูหรือลาดทับด้วยทองคำ
นับเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่สร้างความแตกตื่นและประหลาดใจให้กับพระภิกษุ-สามเณร
รวมทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
พระมหาอารยนันต์
อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง
เปิดเผยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
ที่วัดเขาพระทองปลูกต้นประดู่จำนวน 10 ต้น รอบบริเวณวัด แต่ละต้นมีขนาดใหญ่ 4
คนโอบ อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทุกปีจะเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ 1 ครั้ง
ช่วงก่อนวันพระใหญ่ หรือ “วันวิสาขบูชา” แต่ในปี 2563 เกิดขึ้น 2 ครั้ง และ ปีนี้
2564 เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก
พระภิกษุและชาวบ้านใกล้วัดตื่นเช้าขึ้นมาพบปรากฏการณ์ดอกประดู่ร่วงหล่นเหลืองอร่ามไปทั้งวัด
จนทำให้พื้นลานวัดปกติเป็นพื้นดินแปรสภาพเป็นพื้นสีเหลืองอร่ามประดุจดั่งลานปูด้วยทองคำ
สร้างความตื่นตกใจให้กับพระภิกษุและญาติโยมเป็นอย่างมาก
ประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทองคำเต็มวัดเขาพระทอง”
จึงเชื่อว่าเป็นลางสังหรณ์ที่ดีเกี่ยวกับการสร้างโบสถ์และพัฒนาวัดเขาพระทองและพระพุทธศาสนา
รวมทั้งความพยายามในการควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
สำหรับวัดเขาพระทอง
เป็นวัดเก่าแก่สร้างมารุ่นราวคราวเดียวกับพระบรมธาตุเจดีย์
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ที่อยู่ในช่วงการพิจารณาของยูเนสโกประกาศรับรองเป็นเป็นมรดกโลกในเร็วๆ นี้
โดยวัดเขาพระทองมีหลวงพ่อองค์ใหญ่ อายุกว่า 800 ปี และพระพุทธเก่าแก่รูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัด
29 องค์ เป็นศูนย์รวมใจคู่วัดมายาวนาน รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดมากมาย
หลังจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา ทางวัดได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา
ศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว
กราบไหว้บูชาหลวงพ่อองค์ใหญ่ และเช่าหัวนะโม แหวนหัวนะโม รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ
ของวัด พร้อมทั้งเที่ยวชมและกราบไหว้พิพิธภัณฑ์องค์พ่อจตุคาม-รามเทพ ถ้ำโหม่ง
ถ้ำลมเขาสลักใด
ช่วงระหว่างวันที่ 4 มีนาคม - 4 เมษายน 2564 คณะสงฆ์และลูกศิษย์วัดเพระทองได้ร่วมเดินธุดงค์ธรรมยาตรา “กรุงเทพมหานคร” 810.4 กม. เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเพื่อบอกบุญสมทบทุนสร้างโบสถ์วัดพระทอง โดยมีผู้ร่วมบริจาคเงินเข้าบัญชีเสบียงบุญกองทุนสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี 822-0-638036 ขณะนี้ยอดเงินบริจาคใกล้ 3 ล้านบาท ในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่เดินทางมาเช่าบูชาหัวนะโมและแหวนหัวนะโมสวมติดตัว เพราะเชื่อว่าสามารถดลบันดาลขจัดปัดเป่าให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 และขจัดปัดเปล่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ซึ่งเป็นความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช และต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่เกิดโรคระบาดหลายชนิด เช่น โรคอหิวาต์ที่ชาวบ้านเรียกว่า ”โรคห่า” หรือ “ไข้ห่า” จึงมีการจัดสร้างหัวนะโมและนำไปหว่านตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง ทำให้โรคระบาดหายไป.