กลุ่มทุจริตสหกรณ์ ตร.พัทลุง สอบสมาชิกไปแล้ว 950 ราย-กลุ่มผู้ต้องสงสัยเครียดหนัก
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 20 เม.ย. 2565, 15:33 น. อ่าน : 965พัทลุง-กลุ่มผู้ต้องหาคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงที่จะถูกหมายจับเครียดหนัก เพราะจะถูกดำเนินการตามกฎหมายในคดีอาญา แพ่ง และจะถูก ป.ป.ง.ติดตามยึดทรัพย์ บางรายเตรียมรับชะตากรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อการทุจริตขณะที่สอบปากคำสมาชิกฯไปแล้ว 950 ราย
คดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ที่ทำเป็นขบวนการโดยมีกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกออกหมายจับหลังประมาณ 50 ราย และพบทรัพย์สินของผู้ต้องหาบางรายที่ได้มาจากการทุจริตประมาณ 5 แห่ง ส่วนสมาชิกหลายรายเชื่อว่าน่าจะมีอำนาจมืดในการทุจริตในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ทุจริตบางรายไม่กล้าเปิดปาก ด้านอดีต ขรก. เกษียณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายหนึ่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ปรับเปลี่ยน เพิ่มบทบาทในการส่งเสริม แนะนำ สหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งดำเนินการตรากฎหมายกับตรวจสอบกิจการสหกรณ์และมีส่วนร่วมในการชดใช้ความเสียหาย หากพบการทุจริตขึ้นในสหกรณ์ฯ ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าคดนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่จะถูกออกหมายจับและเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ทุกๆคนจะต้องถูกดำเนินคดีตามความผิดในคดีอาญา คดีแพ่ง และจะถูก ป.ป.ง.สืบทรัพย์และหากว่ามีความผิดก็จะถูกยึดทรัพย์ทุกๆราย ผู้ที่มีความผิดคดีแพ่งจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทุกๆรายเช่นกันโดยผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องคดีแพ่งไม่สามารถจะปฏิเสธการรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯได้ ส่วนจะชดใช้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาที่รู้ตัวว่าตนเองมีความผิดที่จะถูกออกหมายจับ หากมีการโอนทรัพย์ ขายทรัพย์ ฯลฯ ก็อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงินอีกด้วย
ทางด้านทนายความคนดังของ จ.พัทลุง รายหนึ่ง เผยว่า การดำเนินการตามกฎหมายของคดีแพ่งนั้นหากแพ้คดีจะถูกยึดทรัพย์ทุกราย ในขณะเดียวกันหากผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องคดีแพ่งไม่สามารถชดใช้หนี้ให้กับสหกรณ์ฯได้ตั้งแต่1.5 ล้านบาทขึ้นไป ทางสหกรณ์ตำรวจฯหรือนายทะเบียนสหกรณ์ ก็จะมีการยื่นฟ้องบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลล้มละลายตาม พรบ.ล้มละลาย หากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐ ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่โดยทันทีเนื่องจากผู้ถูกฟ้องล้มละลายไม่สามารถเป็นข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐได้ ในขณะเดียวกันนิติกรรมใดๆที่ผู้ต้องหาจำหน่าย จ่ายโอน ที่ดิน ทรัพย์สินไปยังบุคคลใดๆก่อนจะถูกฟ้องล้มละลายภายในระยะเวลา 3 ปี ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการเพิกถอนนิติกรรมนั้นๆ ที่ลูกหนี้จำหน่ายจ่ายโอน ทรัพย์สินไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งกรณีดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาแล้วในช่วงแชร์ล้มใน จ.พัทลุงเมื่อหลายปีมาแล้ว
ทีมข่าวไทยแหลมทองซึ่งทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่าในช่วงนี้ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการการคลี่คลายคดีทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจฯอย่างต่อเนื่อง ได้มีสมาชิกสหกรณ์ฯเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้สอบปากคำสมาชิกไปแล้วมากกว่า 950 คน ส่วนบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดหลังจะมีการออกหมายจับกุมผู้ต้องหาในเร็วๆนี้สำหรับกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะถูกออกหมายจับนั้นบางรายมีใบหน้าที่อิดโรยและหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัดเจน หลายรายก็ยอมรับชะตากรรมของตนเองที่จะถูกดำเนินคดีจากการปฏิบัติหน้าที่ที่น่าจะมาจากการประมาทเลินเล่อ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และหลงเชื่อผู้ต้องหาบางรายที่ใช้เล่ห์กลอำพรางในการทุจริตเงินสหกรณ์ฯในครั้งนี้ ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.