สมาชิกสกรณ์ ตร.จี้ให้จับผู้เกี่ยวข้องทุจริตทุกขั้นตอน
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 27 ก.พ. 2566, 19:01 น. อ่าน : 787พัทลุง-ตัวแทนกลุ่มตรวจสอบและติดตามคดีทุจริตโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เรียกร้องให้ต่อรองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุงดำเนินการตามกฎหมายในคดีแพ่งกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ได้มีความประมาทเลินเล่อ จนทำให้เกิดการทุจริตในช่วงระหว่างปี 2555-2562 ด้วยทุกขั้นตอน
คดีมหากาพย์การทุจริตโกงเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ยังอยู่ในความสนใจของประชาชนที่ติดตามข่าวมาต่อเนื่องถึง 1 ปีกว่า เนื่องจากมีความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท จับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ยื่นฟ้องคดีการฟอกเงินกลุ่มผู้ต้องหารายสำคัญไปแล้ว 10 ราย ด้านอธิบดีอัยการภาค 9 ได้ส่งหนังสือพร้อมสำนวนการสอบสวนฯลฯมายังอัยการจังหวัดพัทลุง หลังจากได้พิจารณาและเห็นว่าในคดีดังกล่าวนี้ผู้ต้องหาทั้ง 26 ราย ได้กระทำความผิดร่วมกับ จนท.รัฐที่เป็นผู้ต้องหา ทางอัยการจังหวัดฯจึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนคืนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณา ล่าสุดเมื่อตอนสายวันที่ 20 ก.พ.66 ทาง ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนดังกล่าวมายังพนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วิญ สุวรรณถาวร สมาชิกกลุ่มตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เปิดเผยว่า ความเสียหายของสหกรณ์ฯที่เกิดขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2555 2552 นั้น นอกจาก ผู้กระทำความผิดที่ตกเป็นกลุ่มผู้ต้องหาในคดีการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ จำนวน 27 รายแล้ว ตนขอเรียกร้องให้รองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้ดำเนินการตามกฎหมายในคดีแพ่งกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ได้มีความประมาท เลินเล่อ จนทำให้เกิดการทุจริตในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2555-2562 ด้วย
สำหรับกลุ่มบุคคลที่สมาชิกออกมาเรียกร้องให้รองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ดำเนินการตรมกฎหมายในคดีแพ่งเนื่องจากมีนวามประมาทเลินเล่อ ประกอบด้วย 1.คณะกรรม การดำเนินงานสหกรณ์ฯในแต่ละปี 2.ผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐ 3.ผู้ตรวจสอบกิจการของสหกรณ์ฯที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมวิสามัญประจำปีของสหกรณ์ฯปีละ 2 คน ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ต้องชดใช้ความผิดทางแพ่งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบกพร่อง ผิดพลาด และประมาทเลินเล่อ จนทำให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีทางแพ่งแต่อย่างใด ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.