พนักงานสอบสวนพบใช้เช็ค 76 ใบ เบิกเงินทุจริตโกงเงินสหกรณ์ ตร.พัทลุง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 7 มี.ค. 2565, 09:53 น. อ่าน : 1,028พัทลุง-ตำรวจพัทลุงพบเช็คเงินสดที่กลุ่มทุจริตเงินสหกรณ์ฯใช่เบิกเงินตั้งแต่ปี 2556-2564 รวม 76 ใบ ธนาคารทยอยส่งเช็คมาให้พนักงานสอบสวนแล้ว 54 ใบ ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหายล่าช้าเพราะขาดแคลนพนักงานสอบสวน สอบได้ครั้งละ 200 คน จากทั้งหมด 1,800 คน
คณะกรรมการสอบสวนคดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง วงเงินประมาณ 1,697 ล้านบาท ยังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานในคดี หลังจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงได้ตรวจพบการทุจริต 3 รูปแบบ มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ล่าสุดรองผู้การฯพัทลุงออกมาเผยอีกว่า มีการนำชื่อคนตาย และคนไม่มีตัวตนเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุจริต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2565 ว่า พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ประธานคณะกรรมการชุดสอบสวนในคดีการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เปิดเผยว่า จากการขยายผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว พบว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 – 2564 กลุ่มผู้ทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุงนำเช็คเงินสดไปเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งมาเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุจริต และนำเงินบางส่วนไปจ่ายให้สมาชิกสหกรณ์เป็นเงินปันผล เฉลี่ยคืน โดยเช็คเงินสดดังกล่าวมีมากถึง 76 ใบ ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดต่อไปยังธนาคารดังกล่าวในกรุงเทพฯ และได้เช็คเงินสดดังกล่าวมาแล้ว 54 ใบ ยังเหลืออีก 22 ใบ ทางธนาคารในส่วนกลางจะส่งมาให้ในเร็วๆนี้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 พบว่ามีการนำเช็คเงินสดของสหกรณ์ฯไปเบิกเงินกับธนาคารมากกว่า 30 ล้านบาท
พ.ต.อ.วรชาติ เผยอีกว่า การจ่ายเงินปันผล / เฉลี่ยคืน ให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯนั้นตามระเบียบแล้วจะต้องจ่ายโอนให้กับสมาชิกโดยตรง การที่กลุ่มผู้ทุจริตนำเช็คเงินสดไปเบิกเงินกับธนาคารแล้วนำเงินมาแบ่งปันกัน และส่วนหนึ่งนำไปให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯนั้น เป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอน ผิดระเบียบ ซึ่งในระบบสหกรณ์ฯเขาไม่ทำกัน ในขณะที่คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯก็ไม่ได้รู้เท่าทันของกลุ่มผู้ทุจริตที่แยบยล มีกลโกงที่ยากจะตรวจพบได้อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการสืบทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหา หากเข้าข่ายการกระทำความผิดการฟอกเงินก็จะต้องมีการยึดทรัพย์โดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สาเหตุสำคัญที่การสอบปากคำสมาชิกสหกรณ์ฯที่มีมากกว่า 1,800 คนล่าช้า สามารถสอบปากคำได้เพียงครั้งละประมาณ 200 คนนั้น มาจากปัญหาความขาดแคลนพนักงานสอบสวน ปกติในแต่ละวันพนักงานสอบสวนก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว และในขณะนี้พนักงานสอบสวนของ จ.พัทลุง ได้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 โรงพักพัทลุง-ตำรวจพัทลุงพบเช็คเงินสดที่กลุ่มทุจริตเงินสหกรณ์ฯใช่เบิกเงินตั้งแต่ปี 2556-2564 รวม 76 ใบธนาคารทยอยส่งส่งเช็คมาให้พนักงานสอบสวนแล้ว 54 ใบ ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหายล่าช้า เพราะขาดแคลนพนักงานสอบสวน สอบได้ครั้งละ 200 คน จากทั้งหมด 1,800 คน
คณะกรรมการสอบสวนคดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง วงเงินประมาณ 1,697 ล้านบาท ยังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานในคดี หลังจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงได้ตรวจพบการทุจริต 3 รูปแบบ มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ล่าสุดรองผู้การฯพัทลุงออกมาเผยอีกว่า มีการนำชื่อคนตาย และคนไม่มีตัวตนเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุจริต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2565 ว่า พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รองผบก.ภ.จว.พัทลุง ประธานคณะกรรมการชุดสอบสวนในคดีการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เปิดเผยว่า จากการขยายผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว พบว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 – 2564 กลุ่มผู้ทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุงนำเช็คเงินสดไปเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งมาเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุจริต และนำเงินบางส่วนไปจ่ายให้สมาชิกสหกรณ์เป็นเงินปันผล เฉลี่ยคืน โดยเช็คเงินสดดังกล่าวมีมากถึง 76 ใบ ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดต่อไปยังธนาคารดังกล่าวในกรุงเทพฯ และได้เช็คเงินสดดังกล่าวมาแล้ว 54 ใบ ยังเหลืออีก 22 ใบ ทางธนาคารในส่วนกลางจะส่งมาให้ในเร็วๆนี้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 พบว่ามีการนำเช็คเงินสดของสหกรณ์ฯไปเบิกเงินกับธนาคารมากกว่า 30 ล้านบาท
พ.ต.อ.วรชาติ เผยอีกว่า การจ่ายเงินปันผล / เฉลี่ยคืน ให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯนั้นตามระเบียบแล้วจะต้องจ่ายโอนให้กับสมาชิกโดยตรง การที่กลุ่มผู้ทุจริตนำเช็คเงินสดไปเบิกเงินกับธนาคารแล้วนำเงินมาแบ่งปันกัน และส่วนหนึ่งนำไปให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯนั้น เป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอน ผิดระเบียบ ซึ่งในระบบสหกรณ์ฯเขาไม่ทำกัน ในขณะที่คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯก็ไม่ได้รู้เท่าทันของกลุ่มผู้ทุจริตที่แยบยล มีกลโกงที่ยากจะตรวจพบได้อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการสืบทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหา หากเข้าข่ายการกระทำความผิดการฟอกเงินก็จะต้องมีการยึดทรัพย์โดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สาเหตุสำคัญที่การสอบปากคำสมาชิกสหกรณ์ฯที่มีมากกว่า 1,800 คนล่าช้า สามารถสอบปากคำได้เพียงครั้งละประมาณ 200 คนนั้น มาจากปัญหาความขาดแคลนพนักงานสอบสวน ปกติในแต่ละวันพนักงานสอบสวนก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว และในขณะนี้พนักงานสอบสวนของ จ.พัทลุง ได้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 โรงพัก และพนักงานสอบสอนทั่วประเทศนั้นยังขาดแคลนมากถึงร้อยละ 33 และเมื่อเร็วๆนี้พนักงานสอบสวนของโรงพักแห่งหนึ่งของ จ.สงขลา ลาออกทั้งโรงพัก ในขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่ได้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด.