คดีทุจริตสหกรณ์ ตร. อาจต้องส่งอัยการสูงสุด ตีความก่อนส่งฟ้อง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 22 ก.พ. 2566, 11:22 น. อ่าน : 649พัทลุง-คดีมหากาพย์ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด มีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะต้องส่งสำนวนการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 ราย ส่งให้อัยการสูงสุดตีความ เพื่อป้องกันการฟ้องผิดศาล จนอาจจะนำไปสู่การยกฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา
ข่าวคดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่มีความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท มีจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ยื่นฟ้องคดีการฟอกเงินกลุ่มผู้ต้องหารายสำคัญไปแล้ว 10 ราย ยังอยู่ในความสนใจของประชาชน คดีนี้อธิบดีอัยการภาค 9 ได้ส่งหนังสือพร้อมสำนวนการสอบสวนฯลฯมายังอัยการจังหวัดพัทลุง หลังจากได้พิจารณาและเห็นว่าในคดีดังกล่าวนี้ผู้ต้องหาทั้ง26 ราย ได้กระทำความผิดร่วมกับ จนท.รัฐที่เป็นผู้ต้องหา ทางอัยการจังหวัดฯจึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนคืนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. มีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะต้องส่งสำนวนการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 ราย ส่งให้อัยการสูงสุดตีความ เพื่อป้องกันการฟ้องผิดศาลจนอาจจะนำไปสู่การยกฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาไป เพื่อพิจารณาการกระทำผิดร่วมกับ จนท.รัฐ ตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อวันที่ 20 ก.พ.66 ทาง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนดังกล่าวกลับมายังพนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินการขั้นตอนของกฎหมาย ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นของการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตเงินสหกรณ์ฯนั้น จะประกอบด้วย จนท.สหกรณ์ฯ และคณะกรรมการสหกรณ์ฯ โดยในเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิดของ จนท.รัฐแต่อย่างใด แต่หลังจากมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง สตช. พบว่ามี จนท.รัฐเข้ามาร่วมการกระทำความผิด 1 ราย ทางพนักงานสอบสวนของ สตช.จึงได้ส่งสำนวนยื่นฟ้องต่ออัยการทุจริตภาค 9 ในเวลาต่อมา จนนำไปสู่การยื่นเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 รายดังกล่าว หลังจากที่ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ส่งสำนวนการสอบสวนกลับมายังตำรวจทางตำรวจก็จะต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดและรัดกุมต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 รายนั้น หากทางตำรวจจะส่งฟ้องต่ออัยการทุจริตภาค 9 สงขลา ทางพนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่หากจะส่งฟ้องให้อัยการจังหวัดฯดำเนินคดีอาญาก็ไม่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากสำนวนการสอบสวนครบถ้วนแล้ว สำหรับคดีดังกล่าวนี้มีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 คน ไปยังอัยการสูงสุด ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาและชี้ขาดในการฟ้องร้อง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการฟ้องร้องผิดศาลจนอาจจะนำไปสู่การยกฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาในที่สุด รวมทั้งเป็นการสร้างความเป็นธรรมกับทุกๆฝ่าย ซึ่งการพิจารณาเรื่องดังกล่าวนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ สตช. และ ตร.พัทลุง ได้กำหนดการประชุมร่วมกันในวันที่ 22 กุมภาพันธ์2566 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.