“บิ๊กโจ๊ก”ตามล่าเงินสดเครือข่ายผู้ทุจริตสหกรณ์ ตร. ถอนมาซ่อนไว้
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 2 ก.ค. 2565, 07:00 น. อ่าน : 948พัทลุง-“บิ๊กโจ๊ก “ เตรียมลงพื้นที่อายัดและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินสหกรณ์ฯด้วยตนเอง ด้านรองผบก.ภ.จว.พัทลุง ยืนยันไม่มีคำสั่งให้ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาและเครือญาติแอบถอนเงินสดมาซุกซ่อนไว้ เกรงถูกอายัด ทางตำรวจเร่งสืบสวนหาแหล่งซุกซ่อนเพื่อตามยึดต่อไป
กรณีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท และมีการจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 24 ราย โดยพล.ต.ท.สุรเชษษ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ที่ได้รับแต่งตั้งจาก ผบ.ตร.ให้เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ดำเนินการสืบทรัพย์และอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ขณะที่มีผู้ต้องหาเข้าแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 157 แก่ ตร.ชุดสอบสวนในคดีดังกล่าว จำนวน 2 ราย และมีการอายัดเงินหุ้นในบัญชีผี และบัญชีเงินฝากในสหกรณ์ฯแล้วประมาณ 100 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอมานั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าได้มีคำสั่งให้ตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินสหกรณ์ฯหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนั้นมิได้กระทำความผิดในหน้าที่ แต่เป็นการกระทำความผิดนอกเหนือหน้าที่ ซึ่งเหมือนกับตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีรังนกที่ยังปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม ในส่วนการอายัดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหาประมาณ 400 ล้านบาทนั้น มิได้นำมารวมกับการอายัดเงินในสหกรณ์ฯจำนวน 100 ล้านบาท เนื่องจากเงินค่าหุ้นในสหกรณ์ฯยังไม่มีมูลค่า
ส่วนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจตามคำสั่ง ผบ.ตร.นั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อไล่เส้นทางทางการเงิน เส้นทางการเงินโยงไปถึงผู้ใดก็จะเรียกผู้นั้นมาสอบปากคำโดยทันที ซึ่งในขณะนี้ได้นำผู้ต้องหา เครือญาติ สมาชิกในครอบครัวมาสอบปากคำหลายรายแล้ว หากไม่สามารถตอบคำถามที่ไปที่มาของเงินและทรัพย์สินได้ก็จะนำเข้าสู่กฎหมายการฟอกเงินโดยทันที ทั้งนี้พล.ต.ท.สุรเชษษ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะฟื้นฟูและกอบกู้สถานภาพด้านการเงินของสหกรณ์ฯให้คืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าต้นเดือนนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. จะลงพื้นที่มาอายัดทรัพย์ และยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหาโดยตนเอง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะลงปฏิบัติการดังกล่าวในพื้นที่ไหน ส่วน ปปง.ที่ได้รับข้อมูลการทุจริตเงินสหกรณ์ฯในเบื้องต้นจากพนักงานสอบสวน ขณะนี้ทาง ปปง. ได้ขยายผลข้อมูลดังกล่าวไปสู่การเตรียมการอายัดทรัพย์ และยึดทรัพย์ตามอำนาจหน้าที่ ร่วมกับตำรวจของจังหวัดต่างๆ ตามคำสั่งของ ผบ.ตร. ทุกๆจังหวัดแล้ว คาดว่าน่าจะมีการปฏิบัติการอายัดและยึดทรัพย์พร้อมๆกันทุกจังหวัดอย่างแน่นอน
ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ชุดสืบสวนในการสืบทรัพย์ของ ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในเบื้องต้นพบว่ามีการแตกคอกันเองในกลุ่มของผู้ต้องหา โดยโยนความผิดไปยังผู้ต้องหารายสำคัญที่เป็นต้นตอของชนวนเหตุการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ เพื่อป้องกันมิให้ตนเองถูกอายัดและยึดทรัพย์จากการร่วมกันกระทำความผิดในครั้งนี้ โดยเฉพาะการโอนเงินไปมาระหว่างกันในปี พ.ศ. 2564 ครั้งละประมาณ 20 ล้านบาทนั้น ผู้ต้องหารายหนึ่งได้โยนความผิดให้กับผู้ต้องหารายสำคัญโดยผู้ต้องหาคนดังกล่าวยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอายัดทรัพย์และยึดทรัพย์นั้นน่าจะได้เงินสดไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะยึดได้จากทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนเงินสดนั้นน่าจะนำไปซุกซ่อนไว้ในที่ใดที่หนึ่ง โดยเงินสดดังกล่าวกลุ่มผู้ต้องหาและเครือญาติได้ถอนออกจากสหกรณ์ฯก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะฉาวโฉ่ออกมา และไม่ได้นำไปฟอกเงินด้วยการซื้อทรัพย์สินเหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกยึดและอายัดทรัพย์ ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนหาแหล่งซุกซ่อนเงินสดเหล่านี้เพื่อยึดและนำมาแก้ปัญหาภายในสหกรณ์ฯ ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.