สหกรณ์ ตร.ตั้งทนายฟ้องผู้ต้องหาคดีทุจริตรวม 1,492 ล้าน
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 3 ส.ค. 2566, 11:49 น. อ่าน : 772พัทลุง-สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด แต่งตั้งทนายฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกลุ่มผู้ต้องหารวม 1,492 ล้านบาทแล้ว จากคดีทุจริตมโหฬารเป็นมหากาพย์
จากกรณีเกิดการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่มีความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาทจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย มีการตรวจยึด และอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา 966,333,140 บาท มีการนำเงินสด20 ล้านบาท ไปชำระหนี้แก่ธนาคารรัฐที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูง ด้าน ปปง.ได้พิจารณายึดทรัพย์สินกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 650 ล้านบาท ส่วน สอ.ตร.พัทลุงจำกัด ได้กำหนด ประชุมสามัญประจำปี 2566 ก่อนวันที่ 20 ธ.ค.2566 เพื่อให้มีการปันผลในต้นปี 2567 หลังจากผลการสรุปงบกำไรขาดทุน ในรอบ 6 เดือน สหกรณ์ฯมีผลกำไรสุทธิจำนวน 32,345,731.92 บาท ด้านสหกรณ์จังหวัดฯได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อบังคับการเปลี่ยนปีบัญชีจากเดิม วันที่ 31 ธ.ค ของแต่ละปี มาเป็นวันที่ 30 ก.ย. ของแต่ละปี ด้านตัวแทนกลุ่มตรวจสอบและติดตามการบริหารงานของ สอ.ตร.พัทลุง จำกัด เรียกร้องให้สหกรณ์ฯเปิดกว้างให้บริษัทประกันชีวิตได้เข้ามาขายทุนประกันการคุ้มครองชีวิตต่อสมาชิกสหกรณ์ฯ เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีต่อมวลสมาชิกฯแทนการผูกขาดที่มีมาหลายปี ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคิบหน้าคดีนี้ พ.ต.ท.(หญิง) สิรตา เประนาม ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ตำรวจพัทลุงจำกัด เผยว่า จากการที่ผู้ตรวจสอบบัญชี หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของ สตช. ได้ร่วมกันสำรวจ ตรวจสอบ ความเสียหายของ สอ.ตร.พัทลุง จำกัด จากการร่วมกันของกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการสั่งคดีของสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 สงขลานั้น จากการตรวจสอบความเสียหายดังกล่าวพบว่าการทุจริตที่ติดต่อกันตั้งหลายปีนั้นมีความเสียหาย ประมาณ 1,492 ล้านบาท ล่าสุดทาง สอ.ตร.พัทลุงจำกัด ได้แต่งตั้งทนายความของสหกรณ์ฯ เพื่อเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 สงขลา ในการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 คดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินการตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งคดีอาญา และคดีฟอกเงิน ที่มีสำนวนการสอบสวน เอกสาร และหลักฐานการทุจริตของกลุ่มผู้ต้องในคดีดังกล่าว จำนวน 23 แฟ้มขนาดใหญ่ จำนวน 54,000 กระดาษ A 4 นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเรียกสอบปากคำผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย หลังจากนั้นทางสำนักงานอัยการจะส่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ตามขั้นตอนต่อไป ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.