รองนายทะเบียนสหกรณ์พัทลุง เผยทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 19 ก.พ. 2566, 10:58 น. อ่าน : 547พัทลุง-รองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุงยืนยันได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่สามารถเผยแพร่เอกสารทางราชการได้ จนทำให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เข้าใจผิดเกิดการเข้าใจผิด
คดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่ทำกันเป็นขบวนการ เกิดความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ยื่นฟ้องคดีการฟอกเงินกลุ่มผู้ต้องหารายสำคัญไปแล้ว 10 ราย ด้าน ปปง.ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ส่วนตัวแทนกลุ่มตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ดำเนินคดีกับรองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุงที่ไม่ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ฯ และการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหารายสำคัญ ของตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของสตช.ได้พบผู้ร่วมการกระทำความผิดอีกจำนวนหนึ่ง ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ นายสวัสดิ์ อ่อนประชู สหกรณ์จังหวัดพัทลุง ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดพัทลุงเปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษรองนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ฟ้องคดีกรรมการสหกรณ์ชุดที่เกิดกรณีทุจริต รวมถึงให้สหกรณ์นำงบดุลสหกรณ์มาพิจารณาในการประชุมใหญ่วิสามัญนั้น เรื่องดังกล่าวทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงได้รายงานถึงอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ทราบเบื้องต้นแล้ว รวมถึงชี้แจงกระบวนการที่ได้ดำเนินการในการออกคำสั่งนายทะเบียนฯ แจ้งให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริต / การติดตามรายงานผลจากคำสั่งนายทะเบียนฯ และกำกับให้สหกรณ์ฯดำเนินการอย่างครบถ้วนจนคดีถึงชั้นอัยการ แต่เนื่องจากเป็นเอกสารทางราชการจึงไม่มีการเผยแพร่สู่ภายนอก จนทำให้สมาชิกที่ไม่ทราบข้อมูลไม่ทราบความเคลื่อนไหวการปฎิบัติหน้าที่ของรองนายทะเบียนสหกรณ์ และเข้าใจว่าละเว้นหน้าที่
นายสวัสดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนการประชุมใหญ่วิสามัญเรื่องการนำงบดุลไปพิจารณานั้น ก็มีระเบียบปฎิบัติเป็นหนังสือแจ้งจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้สหกรณ์ฯดำเนินการได้ เพื่อประโยชน์ในเงินปันผล/เฉลี่ยคืนของสมาชิกที่สหกรณ์ ซึ่งบางแห่งมีเป็น 200 -300 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผลประโยชน์ของสมาชิกเสียไป เนื่องจากการประชุมใหญ่สามัญที่กำหนดปีละครั้งเท่านั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุงนั้นได้เข้าไปช่วยเหลือสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สหกรณ์ฯขับเคลื่อนไปได้ดีแม้ว่าจะเกิดการทุจริตในสหกรณ์ฯก็ตาม ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.