แฉตำรวจใหญ่ชักใยทุจริตโกงเงินสหกรณ์ ตร. พัทลุง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 21 มี.ค. 2565, 09:00 น. อ่าน : 1,292พัทลุง-แฉนายตำรวจระดับใหญ่น่าจะชักใยอยู่เบื้องหลังการทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจฯ ส่วนการประชุมประจำเดือนสหกรณ์ตำรวจฯล่ม เพราะคณะกรรมการฯเข้าร่วมประชุมไม่ครบ
กรณีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. หรือ “ ผู้การรังนกฯ” นำทีมงานสอบสวนในคดีลักรังนกมาคลี่คลายคดีดังกล่าว ร่วมกับชุดสอบสวน ภ.9 และ ชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง จนสามารถคลี่คลายคดีดังกล่าวเป็นที่น่าพอใจยิ่ง เจ้าหน้าที่ DSI ก็ลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีแล้วเช่นกัน ในขณะที่นายสวัสดิ์ อ่อนประชู สหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้ร่วมกับ จนท.สหกรณ์ตำรวจฯ ลงพื้นที่สืบทรัพย์ของกลุ่มผู้ทุจริต เครือญาติ อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดฯ ได้เร่งตรวจพิสูจน์ข้อมูลความเสียหายของการทุจริตในสหกรณ์ฯเป็นครั้งที่ 2 เพื่อตรวจความเสียหายให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ทีมข่าวไทยแหลมทองที่ทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ว่าเมื่อตอนสายวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมประจำเดือนของสหกรณ์ตำรวจฯ ที่ห้องประชุมสหกรณ์ฯ ในการประชุมครั้งนี้ได้มี จนท.ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ของตำรวจภาค 9 จนท.ตรวจสอบบัญชีสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุง และ จนท.ตรวจสอบบัญชีของ ภ.จว.พัทลุง เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขกฎระเบียบ ข้อบังคับของสหกรณ์ฯ การพิจารณาแก้ไขลดค่าการส่งหุ้นรายเดือนของสมาชิกฯ รวมทั้งการพิจารณาเงินกู้ของสมาชิกฯ แต่การประชุมในครั้งนี้กลับล่มไม่เป็นท่า เนื่องจากคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม จนสร้างความงุนงงสงสัยให้กับบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมและสมาชิกสหกรณ์ฯที่ทราบข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูลของสหกรณ์จังหวัดพัทลุงในเบื้องต้นนั้น พบว่าการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด มีความลึกลับซับซ้อนในวงการสีกากี จากการเกาะติดการทุจริตในสหกรณ์ฯพบว่าอดีตผู้จัดการน่าจะเป็นเป็นแค่ตัวละครคนหนึ่ง ที่อาจจะทำหน้าที่เป็นวาวเปิดท่อดึงเงินออกมาจากสหกรณ์ฯ ซึ่งน่าจะมีคนสีกากียศใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการ และวางระบบจัดสรรประโยชน์ในการทุจริต จนเกิดระบบดูดเงินจากสหกรณ์ไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งคดีทุจริตสหกรณ์ตำรวจฯนั้น หากปล่อยให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการก็คงแค่คดีฉ้อโกงธรรมดาที่ไม่สามารถสาวไปถึงตัวการใหญ่สีกากีได้ ทั้งนี้เงินที่ทุจริตจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจฯ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่เป้าหมาย อาจมีการนำเงินไปวิ่งเต้นตำแหน่งในวงการสีกากีทั้งของตนเองและลูกน้องก็เป็นได้ ซึ่งสมาชิกมีการตั้งข้อสังเกตุประเด็นนี้ด้วย
ทางด้านคณะกรรมการสหกรณ์ฯยศนายดาบตำรวจรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ในระบบการเงินและการบัญชีเลยเพราะไม่มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อโรงพักของตนไม่มีผู้สมัครเข้ามาเป็นคณะกรรม การสหกรณ์ฯซึ่งเป็นตัวแทนของโรงพัก และได้รับการร้องขอจากเพื่อนตำรวจด้วยกัน จึงต้องเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ฯ โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าการทุจริตจะเกิดขึ้น จนทำให้ตนต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว จากสาเหตุสำคัญที่มาจากการความเชื่อใจในการปฏิบัติหน้าที่ของอดีตผู้จัดการและกลุ่มผู้ทุจริตในคดีดังกล่าว ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.