ซีพีเอฟ ชูฟาร์ม-โรงงาน-แรงงาน มาตรฐานระดับโลก ผลิตอาหารปลอดภัย ป้องกันโควิด-19
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 19 ม.ค. 2564, 15:47 น. อ่าน : 2,450 เมื่อวันที่ 18
มกราคม 2564 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตั้ง
“การ์ดแน่น”
ย้ำมาตรการป้องโรคในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ด้วยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Bio-security)
ตามมาตรฐานโลก ทั้งสัตว์บก-สัตว์น้ำ ทั้งกิจการในไทยและในต่างประเทศ
ช่วยผลิตเนื้อสัตว์ ควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดในกระบวนการผลิตและการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน
ช่วยให้คนไทยมีอาหารเพียงพอให้ทุกสถานการณ์และปลอดภัยตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร (From
Farm to Table)
นายประสิทธิ์
บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า
ในช่วงวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)
ทำให้ความมั่นใจในการบริโภคอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ลดลง
ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหารเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อ
ไม่ใช่เฉพาะอาหารทะเล ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการระบาดของโรคฯ รอบใหม่ที่ตลาดกุ้ง-ปลา
มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เท่านั้น แต่ยังขยายความระมัดระวังไปสู่เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ
เช่น หมู ไก่ เป็ด ด้วย
ซึ่งการชะลอการบริโภคเนื้อสัตว์และอาหารทะเลจะส่งผลต่อไปยังเกษตรกรไทยโดยตรง
ซีพีเอฟ
ให้ความสำคัญสูงสุดกับการผลิตอาหารปลอดภัยและเพียงพอต่อการบริโภคของทุกคน
ด้วยการนำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในการเลี้ยงสัตว์ (Farm
Biosecurity) ซึ่งเป็นระบบป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้าสู่หรือกระจายโรคออกจากฟาร์มหรือโรงเรือน
สถานที่เลี้ยงสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมไปถึงรถขนส่ง
ภาชนะอุปกรณ์การจัดการขยะ ซากสัตว์และน้ำทิ้ง
และเป็นวิธีการควบคุมโรคที่ได้ผลดีที่สุด
เป็นแนวปฏิบัติพื้นฐานในการทำฟาร์มจนถึงกระบวนการผลิตอาหาร
ซึ่งเป็นหลักประกันอาหารปลอดภัยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต
นายประสิทธิ์
กล่าวต่อไปว่า ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพถูกนำไปใช้ในฟาร์มระบบปิด สุกร ไก่เนื้อ
ไก่ไข่และกุ้ง
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตตามเป้าหมายความปลอดภัยในห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่เนื้อสัตว์
ผลิตภัณฑ์อาหาร ตลอดจนผลิตได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก
สร้างความมั่นคงทางอาหาร
และพร้อมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรและคู่ค้าในห่วงโซ่การผลิต
เพิ่มความปลอดภัยของวัตถุดิบในการผลิตอาหารอย่างรอบด้าน
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ
ยังมีการป้องกันไข้หวัดนกในธุรกิจไก่เนื้อ โดยประยุกต์ระบบ Compartment
ขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organisation
for Animal Health : OIE) ที่ให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและควบคุมโรคฯ
ในฟาร์มและพื้นที่กันชนในรัศมี 1 กม. และระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพสูงสุด
และสามารถป้องกันโรคอื่นๆ ได้ ขณะที่ธุรกิจสัตว์น้ำ บริษัทฯพัฒนาระบบ CPF Combine Model ภายใต้แนวทาง “3 สะอาด” ซึ่งประกอบด้วย พื้นบ่อสะอาด น้ำสะอาด และ
ลูกกุ้งสะอาด ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้กุ้งอยู่สบาย กินอาหารได้ดี
มีอัตราการเติบโตที่ดี รวมถึงการใช้จุลินทรีย์ในการเลี้ยง (Probiotic) ลดความเสี่ยงการเกิดโรคของกุ้ง โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในระหว่างการเลี้ยง
และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“เรามั่นใจว่าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารของ
ซีพีเอฟ มีความปลอดภัยสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
ระบบบริหารจัดการฟาร์มที่ดีจะช่วยให้บริษัทฯ
มีวัตถุดิบสนับสนุนการผลิตอาหารได้อย่างต่อเนื่อง
สร้างความมั่นใจให้กับคนไทยได้มีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ
และควรปรุงให้สุกเพื่อสุขอนามัยที่ดี” นายประสิทธิ์ กล่าว
ซีพีเอฟ
ยังยกระดับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตามแนวทางปฏิบัติของภาครัฐและของเครือเจริญโภคภัณฑ์
โดยพนักงานทุกคนในฟาร์มและโรงงานต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น
การสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิก่อนเข้าปฏิบัติงาน
ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่
รถขนส่งสินค้าทุกคันต้องผ่านการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาที่บริเวณล้อรถ
และจัดจุดเทียบส่งสินค้าที่บริเวณลานรับและกระจายสินค้า
ขณะที่ในกระบวนการผลิตมีการทำความสะอาด วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ห้องบรรจุ
และอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมดอย่างละเอียด
เพื่อป้องกันแรงงานทุกคนและทุกขึ้นตอนการผลิตให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน (Work from Home) โดยขึ้นกับความเหมาะสมของงาน และมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดด้านสุขอนามัยตลอดเวลา ตั้งแต่ที่บ้าน การเดินทางไป-กลับ การปฏิบัติตัวในระหว่างทำงาน การรับประทานอาหาร การรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ระยะห่างทางบุคคล (Physical Distancing) และมีการสื่อสารให้พนักงานรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อย่างทั่วถึง และมีกรอกข้อมูลการเดินทางในแอพพลิเคชั่น CPF Connect ตรวจสอบและติดตามข้อมูลการเดินทาง สำหรับการประเมินความเสี่ยงได้ทันท่วงที ซึ่งบริษัทฯ ยังสนับสนุนแนวทางปฏิบัติให้กับเกษตรกรและคู่ค้าดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ห่วงโซ่การผลิตอาหารของบริษัทฯ ตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยอย่างยั่งยืน.